“บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” เดินหน้ารุกธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดตัว 4 ธุรกิจ “Exchange – ที่ปรึกษา ICO – Blockchain – ลงทุน” หวังช่วยรัฐและเอกชนไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงในยุค Disruption Waves ที่ทรัพย์สินทุกอย่างจะถูกนำมาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Bitkub) กล่าวว่า บริษัทมีธุรกิจ 4 กลุ่มได้แก่
1. กลุ่มธุรกิจบริการซื้อขายแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ดำเนินการโดยบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub.com
2. กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาด้าน ICO รวมถึงการพัฒนาและออกแบบ Blockchain ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ดำเนินโดย บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด
3. กลุ่มธุรกิจการศึกษาด้าน Blockchain โดย ไทย บล็อคเชน ฮับ (Thai Blockchain Hub) เน้นการสร้างองค์ ความรู้ที่เป็นองค์รวมของการออกแบบและพัฒนา Blockchain เพื่อรองรับกับ Application ที่จะเกิดขึ้นบน platform ของ Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตอันใกล้
4. กลุ่มธุรกิจลงทุน ซึ่งจะเลือกลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain และทรัพย์สินดิจิทัลที่มีโอกาสเติบโตสูง
“ภายใต้โครงสร้างทั้ง 4 ธุรกิจดังกล่าว จะทำให้บริการของบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง สามารถช่วยภาครัฐและภาคเอกชนต่างๆ ให้สามารถก้าวผ่าน Disruption Waves ไปได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพราะในโลกอนาคตอันใกล้ ทรัพย์สินที่มีอยู่บนโลกจะถูกนำมาแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนในรูปของ Digital Asset Exchange Platform ซึ่งจะนำไปสู่การทำ ICO (Initial Coin Offering) รวมไปถึงการปรับปรุงการบริหารองค์กรต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีด้านบล็อคเชน เป็นพื้นฐาน” นายจิรายุส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจิรายุส กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดที่เราเชื่อมั่นว่าจะต้องเร่งทำให้เร็วคือการให้องค์ความรู้ เราจึงตั้งบิทคับ บล็อคเชน อาคาเดมี่ เพื่อสร้างชุมชนผู้ใช้บล็อคเชนอย่างแท้จริง และเมื่อชุมชนแข็งแรง มีกิจกรรมและ ธุรกรรม เราเล็งเห็นโอกาส เราจึงตั้งบิทคับ แคปิตอล เพื่อให้โอกาสแก่กลุ่มคนที่มีความคิดดี ๆ ที่สามารถ นำไปปฏิบัติได้จริง”
นายจิรายุส เตือนให้ภาครัฐและเอกชนเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยีที่จะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป ส่งผลโดยตรงต่อการทำธุรกิจ ซึ่งองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หากไม่ตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลง จะต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างแน่นอน
ในสภาพการทำธุรกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากยุค 4.0 ไปเป็น 5.0 ทำให้สังคมในทุกภาคส่วนจะต้องตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและหากองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชนไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ จะต้องถูกทอดทิ้ง ซึ่งภาวะดังกล่าว ถือเป็นวิกฤติพลวัต (Disruption Waves) คือ วิกฤติอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่องค์กรบางองค์กรไม่สามารถก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงไปได้
“ผมอยากจะยกตัวอย่างเทียบเคียงกับวิกฤติพลวัตที่เราเห็นเป็นตัวอย่างมาแล้ว อย่างกรณีธุรกิจฟิลม์ ถ่ายภาพหรือแม้แต่ธุรกิจมือถือที่เคยครองความเป็นเจ้าตลาดของโลกและถูกเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว มากเข้ามาทำให้ธุรกิจเดินต่อไม่ได้ ซึ่งถามว่า หน่วยงานเหล่านี้ รู้ไหมว่าการเปลี่ยนแปลงกำลังจะเกิดขึ้น คำตอบคือรู้ครับ แต่วิ่งตามไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลง จนทำให้เกิดวิกฤติธุรกิจอย่างที่เราได้ทราบกัน นี่เป็นตัวอย่างของวิกฤติพลวัตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอย หากเราไม่ตื่นรู้กับการ เปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที” นายจิรายุส กล่าว
นอกจากนี้ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จะจัดกิจกรรมการพบปะกับทีมผู้บริหารของบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กับองค์กรทั้งภาครัฐและ เอกชน เพื่อเป็นเวทีพบปะแลกเปลี่ยนและสอบถามการออกแบบและพัฒนาบล็อคเชนจากผู้รู้โดยตรง ของบิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง ในวันที่ 15 พ.ย. 2561 เวลา 18.-30 – 20.30 น. ณ The Great Room อาคารเกสรทาวเวอร์ชั้น 26 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ขณะเดียวกัน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างเครือข่ายบล็อคเชนยุโรปและไทย บริษัท บิทคับ โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ได้ถูกแต่งตั้งจากกลุ่มยูโรเปียนบล็อคเชนฮับ ให้เป็นประธานเครือข่ายใน ประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ จัดการประชุมซัมมิทสุดยอดบล็อคเชน เพื่อเป้าหมาย การพัฒนาอย่างยั่งยืน 2019 (Blockchain for Sustainable Development Goals Summit 2019) ในวันที่ 30 พ.ย. 2561 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพ ประเทศไทย
วิทยากรรับเชิญ Mr. Blaz Golob President of European Blockchain Hub, Mr.Rex Yeap, Founding Member of European Blockchain Hub และ ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นประธานกล่าวเปิดและรับฟังกรณีศึกษาบล็อคเชนที่ประสบความสำเร็จอย่างน้อย 5 กรณีในที่ประชุมซัมมิทแห่งนี้
ทั้งนี้ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ เริ่มต้นจากการเป็น Start Up ด้วยการระดมทุนใน Seed Round ที่สูงที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ โดยมีมูลค่าบริษัทที่ 525 ล้านบาท และ มีผู้ร่วมทุนสำคัญ เช่น dtac accelerate
“ผมขอถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณ dtac accelerate ที่เล็งเห็นผลความเป็นไปได้กับ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่จนกลายเป็นผู้สนับสนุนพวกเราให้มีทุกวันนี้” นายจิรายุส กล่าว