BTS พุ่งฉิวแตะ 5 บาท ขายหุ้นเพิ่มทุนล้น ธุรกิจขาขึ้น

HoonSmart.com>>กลุ่มบีทีเอสฯแกร่ง ราคาขึ้นยกแผงนำตลาดติดลบ BTS พุ่งแรงแตะ 5 บาท เพิ่มทุนสำเร็จ  13,200 ล้านบาท ยอดจองซื้อล้น สะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อย ได้เงินก้อนใหญ่คืนจากกทม.  ธุรกิจแม่-ลูกกลับทิศเป็นขาขึ้น 

เช้าวันที่ 28 ต.ค.2567 หุ้นกลุ่ม BTS พุ่งแรง สวนทางตลาดติดลบ  โดย BTS ทะยานขึ้นแตะ 5 บาท ก่อนมาซื้อขายบริเวณ  4.86  บาท บวก 0.20 บาทหรือ+4.29% ณ เวลาประมาณ 14.06 น.  VGI ขึ้นไปสูงสุด 2.82 บาท ก่อนมาซื้อขายบริเวณ 2.74 บาท บวก 0.04 บาทหรือ +1.48%  และ RABBIT ราคาอยู่ที่ 0.60 บาท บวก 0.01 บาทหรือ+1.69%

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (Rights Offering: RO) โดยได้รับเงินจำนวนทั้งสิ้น 13,200 ล้านบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตรา 4.5 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขาย 4.50 บาทต่อหุ้น จำนวนไม่เกิน 2,926,141,881 หุ้น

การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม จากนักลงทุนทั้งรายย่อย และนักลงทุนสถาบันมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ (oversubscribed) สะท้อนให้เห็นถึงการสนับสนุน และความเชื่อมั่นจากนักลงทุน อีกทั้งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนคาดการณ์มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทฯ สูงกว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน โดย ณ วันสุดท้าย ของการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน หุ้น BTS มีราคาปิดที่ 4.54 บาทต่อหุ้น ยังคงต่ำกว่าราคาปิด ณ วันที่ 6 ธ.ค. 2562 ที่ 14.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาปิดสูงสุดของหุ้น BTS ก่อนการระบาดของโรค COVID ถึง 70%

บริษัทฯ จะนำเงินจากการเพิ่มทุนไปใช้ในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วม ได้แก่ บริษัท ร็อคเทค โกลบอล   (ROCTEC) และ บริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์  (RABBIT) และส่วนที่เหลือ บริษัทฯ จะนำไปชำระหนี้ สำหรับการเพิ่มทุนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ จะเป็นการเสริมฐานะการเงินให้แข็งแกร่งมากขึ้น หลังจากที่บริษัท กรุงเทพธนาคม   (เคที) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของกทม.ได้ชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยค้างชำระ สำหรับหนี้งานระบบ (E&M) ของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว (ส่วนขยายที่ 2) แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) จำนวน 23 พันล้านบาท ในเดือนเม.ย. 2567

นอกจากนี้ ในวันที่ 26 ก.ค. 2567 ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาพิพากษาให้กทม. และเคที ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) จำนวนประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องชำระภายในวันที่ 22 ม.ค. 2568 การชำระหนี้เหล่านี้ ร่วมกับเงินสดรับจากการเพิ่มทุนจะช่วยเสริมสร้างฐานทุนของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง และลดภาระหนี้สินของบริษัทฯ ต่อไป

ขณะเดียวกัน ผลงานของบริษัทบีทีเอสและบริษัทในกลุ่มผ่านจุดต่ำสุดแล้ว

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ 7 ราย แนะนำให้ซื้อ 2 ราย และให้ถือ 5 ราย ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5.21 บาท จากระดับสูงสุด 5.60 บาท  (บล.กรุงศรี) และต่ำสุด 4.20 บาท (บล.บัวหลวง)

ก่อนหน้านี้ VGI ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจงครั้งใหญ่   ระดมทุนเพื่อนำไปขยายธุรกิจ Virtual Bank และ Media and Entertainment โดยเฉพาะคอมเพล็กซ์เต็มรูปแบบ