ก.ล.ต.เพิกถอนไลเซนส์ผู้แนะนำลงทุน 10 ปี หลอกเงินลูกค้าซื้อกองทุน

HoonSmart.com>>ก.ล.ต. สั่งเพิกถอนการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุน “สิทธิพงศ์ จุมปาลี” เป็นเวลา 10 ปี กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต หลอกเงินลูกค้า 11 ราย รวมมูลค่า 19.95 ล้านบาท ไม่นำเงินซื้อหน่วยลงทุนตามประสงค์ ขณะกระทำผิดสังกัดธนาคารกรุงศรีอยุธยา
 
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับรายงานการตรวจสอบจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างปี 2565 – 2566 นายสิทธิพงศ์ ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ จำนวน 11 ราย เป็นเงินรวม 19,950,000 บาท* โดยให้ลูกค้าถอนเงินและมอบเงินสด และ/หรือโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของนายสิทธิพงศ์เพื่อซื้อหน่วยลงทุน และให้ลูกค้าลงนามในคำสั่งซื้อหน่วยลงทุน แต่นายสิทธิพงศ์ไม่ได้ทำรายการตามความประสงค์ของลูกค้า รวมทั้งจัดทำรายงานการลงทุนและแจ้งผลตอบแทนเพื่อให้ลูกค้าเชื่อว่าได้ลงทุนจริง ทำให้ลูกค้าได้รับความเสียหาย

นอกจากนี้ นายสิทธิพงศ์ยังหลอกลูกค้าบางรายให้ลงทุนต่อ โดยให้ข้อมูลว่าหน่วยลงทุนที่ลูกค้าถืออยู่ครบกำหนดและให้ลูกค้าลงนามในใบคำสั่งสับเปลี่ยนการถือหน่วยลงทุน หรือเมื่อลูกค้าต้องการไถ่ถอนหน่วยลงทุน นายสิทธิพงศ์จะให้ลูกค้าลงนามในใบคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนและโอนเงินจากบัญชีส่วนตัวของนายสิทธิพงศ์เข้าบัญชีของลูกค้า
 
ก.ล.ต. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายสิทธิพงศ์เป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือให้บริการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของผู้ลงทุนโดยมิชอบ อันเป็นลักษณะต้องห้ามของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน** ก.ล.ต. จึงเพิกถอนการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 2*** และกำหนดระยะเวลาในการรับพิจารณาคำขอความเห็นชอบของนายสิทธิพงศ์เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนในคราวต่อไป เป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567
 
ทั้งนี้ ในการพิจารณากำหนดระยะเวลาข้างต้น ก.ล.ต. ได้นำปัจจัยดังต่อไปนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาด้วย ได้แก่ บทบาทความเกี่ยวข้องและพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกพิจารณา การลงโทษที่บุคคลนั้นได้รับไปแล้ว ผลกระทบ ความเสียหายหรือผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น การแก้ไขหรือการดำเนินการอื่นที่เป็นประโยชน์หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของ ก.ล.ต. และประวัติหรือพฤติกรรมในอดีตอื่นใดที่แสดงถึงความไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
 
ก.ล.ต. ขอย้ำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบรายการซื้อขายหน่วยลงทุนที่ดำเนินการแล้วเสร็จทันทีจากหลักฐานการซื้อขายที่ออกโดยธนาคารหรือบริษัทจัดการลงทุน และตรวจสอบรายงานการถือหน่วยลงทุนและบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งในการโอนเงินลงทุนจะต้องโอนเข้าบัญชีของผู้ประกอบธุรกิจเท่านั้น โดยไม่โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้แนะนำการลงทุน เพื่อป้องกันความเสียหายอันอาจเกิดจากการทุจริตได้