HoonSmart.com>>”ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย”(TATG) ปลื้มนักลงทุนแห่จองซื้อหุ้น IPO มั่นใจในศักยภาพธุรกิจ และมองเห็นโอกาสการเติบโตในอนาคต จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง พร้อมเทรดวันแรกในตลาด mai กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม 8 ต.ค.นี้
นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินบริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ดาย (TATG) เปิดเผยว่า TATG เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรกในวันที่ 8 ต.ค. 2567 หลังจากได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.25 บาท ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.–2 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพ และมองเห็นโอกาสการเติบโตของ TATG ในอุตสาหกรรมยานยนต์
ด้วยจุดเด่นของ TATG ในฐานะผู้ผลิตแม่พิมพ์โลหะอุปกรณ์จับยึด และผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากว่า 30 ปี สามารถให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร(One Stop Service) รวมถึงให้ความสำคัญในการพัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่มีความทันสมัยเข้ามาเสริมทัพสายงานการผลิตให้ทัดเทียมระดับสากล พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ และรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มขั้น โดยเน้นสร้างความแตกต่างด้านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า จึงเชื่อมั่นว่า เมื่อหุ้น TATG เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน
ขณะที่ นางยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุดสายงานตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ในช่วงการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอของ TATG ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาจองซื้อเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดย TATG ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.25 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) เท่ากับ 5.2 ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยมองว่า TATG เป็นอีกหุ้นน้องใหม่ที่มีความน่าสนใจ ด้วยราคาที่กำหนดไว้มีความเหมาะสม และศักยภาพการเติบโตของธุรกิจเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม
ด้าน ดร.พยุง ศักดาสาวิตรประธานกรรมการบริหาร TATG กล่าวว่า ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในศักยภาพและการเติบโตของบริษัทฯ มีผลให้การจองซื้อหุ้น IPO ระหว่างวันที่ 30 ก.ย.- 2 ต.ค. ที่ผ่านมา ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยการเข้ามาระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เพื่อลงทุนในเครื่องจักรเพิ่มเติม ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ และจ่ายคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
โดยผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา (2564-2566) กลุ่มบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,547.60 ล้านบาท 2,922.47 ล้านบาท และ 3,002.91 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตร้อยละ 35.04 , 14.71 และ 2.75 ตามลำดับ ขณะที่ กำไรสุทธิอยู่ที่ 164.55 ล้านบาท 108.16 ล้านบาท และ 47.87 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่รายได้รวมงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,340.11 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 8.70 เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 45.87 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนอยู่ที่ 2.97 ล้านบาท
โดยสามารถแบ่งเป็นรายได้จากการขายชิ้นส่วนรถยนต์ ฝาครอบหม้อลมเบรครถยนต์ เศษวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์อื่น รวมเกือบร้อยละ 90 และรายได้จากการบริการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์โลหะและอุปกรณ์จับยึด อยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯที่มีความเชี่ยวชาญในสายงานได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ TATG พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าเติบโตไปกับเม็ดเงินระดมทุน มุ่งยกระดับและรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง