BGRIM พุ่ง 6.52% เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง

HoonSmart.com>>หุ้น BGRIM พุ่ง 6.52% บล.หยวนต้า ปรับประมาณการกำไรปี 69-70 ขึ้น พร้อมเพิ่มราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 30.50 บาท/หุ้น จากการรวมโครงการลมในเกาหลี 2 โครงการไว้ในประมาณการ เล็งผลงานจะฟื้นในปี 68 และยังได้อานิสงส์วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง รวมถึงการย้ายฐานการผลิตหนุนความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา 14.30 น.หุ้น BGRIM พุ่ง 6.52% มาที่ 24.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,217.72 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 23.30 บาท ขึ้นสูงสุด 24.70 บาท และต่ำสุด 23.30 บาท

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น”ซื้อ” จากเดิมแนะ”เก็งกำไร” หุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ปรับราคาเหมาะสมขึ้นเป็น 30.50 บาท/หุ้น ปรับประมาณการกำไรปี 2569-2570 ขึ้นเป็น 2,280 ล้านบาท (+11% YoY) และ 2,483 ล้านบาท (+9% YoY) ตามลำดับ จากการรวมโครงการลมในเกาหลี 2 โครงการไว้ในประมาณการ โดยมองว่า BGRIM มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากผลประกอบการที่คาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และจะกลับมาเติบโต YoY ได้ในปี 2568 รวมถึงการได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง และการเข้าสู่รอบของการเติบโตรอบใหม่ (จากการเข้าสู่อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าในประเทศเกาหลีใต้)

ปัจจุบัน BGRIM ได้เริ่มมีการเข้าไปลงทุนในเกาหลีใต้ ทั้งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาดรวม 408 MW รวมถึงอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลเพื่อเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มอีก 4 โครงการ(ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ)ทำให้มองว่าอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าของเกาหลีจะเป็นประเทศหลักที่เข้ามาช่วยหนุนการเติบโตให้กับบริษัทฯ ในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ มองว่าอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในเกาหลีใต้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากเนื่องจากในปัจจุบันเกาหลีใต้มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนต่ำกว่า 10% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลก, กลุ่มประเทศ OECD และทวีปเอเชียมาก) ทำให้เกาหลีใต้จำเป็นต้องการมีการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพื่อมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2593

นอกจากนี้ คาดการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างชาติมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น โดยเฉพาะไทย โดยผู้ประกอบการต่างชาติที่ย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยมากขึ้นจะส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในนิคมอุตสหากรรมสูงขึ้นในลำดับถัดไป(หนุนการขายไฟฟ้าให้กับกลุ่มลูกค้า IU)

BGRIM มีโอกาสได้ประโยชน์จากการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีภาระหนี้สินสูง (ดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงหลังการ Rollover หุ้นกู้เดิม)