HoonSmart.com>> EGCO Group ขยายการลงทุนผ่าน PT Chandra Daya Investasi (CDI) ที่จะเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของอินโดนีเซีย และภูมิภาคอาเซียน เชื่อมั่นว่าการลงทุนใน CDI มีความเสี่ยงต่ำ และจะสร้างกำไรให้ EGCO Group อย่างต่อเนื่อง
กลุ่มบริษัท ผลิตไฟฟ้า (EGCO) หรือ EGCO Group ได้ร่วมประชุมหารือธุรกิจกับคณะผู้บริหาร PT Chandra Daya Investasi (CDI) และรับฟังการบรรยายทิศทางการดำเนินงาน และติดตามความก้าวหน้าการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในโอกาสที่พานักวิเคราะห์จากประเทศไทยไปศึกษาดูงาน CDI ณ กรุงจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 11-13 ก.ย. 67
ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO Group กล่าวว่า CDI เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง PT Chandra Asri Pacific Tbk (CAP) บริษัทผู้ผลิตปิโตรเคมีแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย 70% และ EGCO 30% เพื่อลงทุนในธุรกิจสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งปิดดีลแล้วเสร็จเมื่อเดือนธ.ค. 2566 โดย CDI ได้นำเสนอผลการดำเนินงานและแผนการขยายงานแบบครบวงจรตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในด้านธุรกิจผลิตและขายไฟฟ้า ธุรกิจสาธารณูปโภค ธุรกิจบริหารจัดการคลังเก็บผลิตภัณฑ์เคมีและท่าเทียบเรือ (Port, Tanks & Jetty) และธุรกิจโลจิสติกส์ ผ่านการขนส่งทางเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ (Vessels) เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ CDI และเพื่อรองรับการเติบโตในธุรกิจของ CAP ในอนาคตอีกหลายโครงการ อาทิ CAP อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงานอัลคาไลน์ (Alkaline) แห่งใหม่ ตลอดจนมีแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับ Portfolio ธุรกิจของตนเอง และขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานผ่าน CDI ในขณะเดียวกัน CDI ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างโครงการโซลาร์เซลล์บนทุ่นลอยน้ำ (Floating Solar) และโครงการโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop) อีกด้วย
“การขยายการลงทุนของ EGCO Group ผ่าน CDI มีความคืบหน้าที่ชัดเจน ในขณะที่ CDI ได้บริหารจัดการเงินลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการลงทุนและการเติบโตในอนาคต ความก้าวหน้าดังกล่าวสะท้อนถึงประสิทธิภาพในการเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง EGCO Group, CAP และ CDI ด้วยการผนวกความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงานกว่า 32 ปี ของ EGCO Group เข้ากับโอกาสในการขยายธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคของ CAP เพื่อผลักดันให้ CDI เติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของอินโดนีเซียและภูมิภาคอาเซียน เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนใน CDI มีความเสี่ยงต่ำ และจะสร้างกำไรให้ EGCO Group อย่างต่อเนื่อง” ดร.จิราพร กล่าวสรุป
ณ วันที่ 12 ก.ย. 2567 EGCO Group มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 6,993 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,437 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 21% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ได้แก่ บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส (ESCO) ให้บริการงานเดินเครื่อง บำรุงรักษา วิศวกรรม ก่อสร้าง อนุรักษ์พลังงาน และการฝึกอบรมแก่โรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค “CDI” ในอินโดนีเซีย ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “TPN” โครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง “ERIE” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม “Innopower” และบริษัทเทคโนโลยีด้านการเงิน “Peer Power” ทั้งนี้ EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 4 ปีต่อเนื่อง (2563-2566)