THRE กำไรครึ่งปีพุ่ง 92% รุกตลาดอินโดฯดันรายได้โต10%

HoonSmart.com>>ไทยรับประกันภัยต่อ เปิดกำไรครึ่งปีพุ่ง 92% ครึ่งปีหลังรุกเจาะตลาดลูกค้าอินโดฯ

นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) เปิดเผยผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2567 ว่าบริษัทมีรายได้เบี้ยประกันภัยต่อรับสุทธิ 2,552 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท เติบโต 92% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้เบี้ยประกันภัยต่อรับสุทธิ 1,352 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141 ล้านบาท เติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุหลักมาจากปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นสร้างการเติบโตธุรกิจกลุ่ม Non-Conventional และ Conventional รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน ส่งผลให้มีการเติบโตทั้งในส่วนของ Personal line และ Commercial line

ในขณะเดียวกัน บริษัทได้ใช้กลยุทธ์การปรับพอร์ตเงินลงทุน ทยอยลดสัดส่วนลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตรไทย เน้นเพิ่มสัดส่วนลงทุนในหุ้นและกองทุนตราสารหนี้ของต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ที่ระดับ 4.0% ๆ ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ทำไว้ที่ 2.0%

นอกจากนี้ ยังสามารถบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษา Combine Ratio ไว้ได้ที่ 96.7% ซึ่งอยู่ในขอบเขตของเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ที่ 95-97%

บริษัทคาดว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/67 มีแนวโน้มเติบโตต่ออย่างเนื่อง โดยพบว่าเบี้ยประภัยต่อรับในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมา มีการปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถสร้างเติบโตของธุรกิจได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี จากภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยต่อที่อยู่ในช่วงขาขึ้น

ประกอบกับการใช้กลยุทธ์ขยายธุรกิจไปยังตลาดอาเซียนที่มีศักยภาพในการเติบโตปัจจุบัน ไทยรีมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 5.8%

ในครึ่งปีหลัง บริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มฐานลูกค้าในประเทศอินโดนีเซีย เนื่องจากเป็นประเทศที่มีตลาดค่อนข้างใหญ่และมีโอกาสเติบโตสูงผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประเภท Personal Line ที่ตอบโจทย์ลูกค้า

สำหรับปี 2567 ไทยรีมั่นใจว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 10% โดยเราให้ความสำคัญต่อการสร้างอัตราผลตอบแทนของกำไรเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น และอยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าบริษัทได้มีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ที่ธุรกิจประกันสุขภาพมีอัตราการเคลมในระดับสูงอย่างใกล้ชิด

รวมถึงมีการคุมสัดส่วนธุรกิจประกันภัยต่อประเภทรถยนต์ EV เพื่อคัดกรองและป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของบริษัทในระยะยาว