โดย…สุนันท์ ศรีจันทรา
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศใช้มาตรการกำกับการซื้อขาย หุ้นบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 7 ธันวาคมนี้ โดยต้องซื้อขายด้วยเงินสด หลังจากราคาหุ้นทรุดตัวอย่างหนักและต่อเนื่อง ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น
ราคาหุ้น JMART เข้าสู่ช่วงขาลงเต็มตัวมานับตั้งแต่ต้นปี โดยราคาเคยพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 25.25บาท หลังจากบริษัท เจ เวนเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ประกาศระดมทุนด้วยเงินดิจิทัล เจฟิน คอยน์ หรือ JFIN จำนวน 100 ล้านเหรียญ เสนอขายนักลงทุนเป็นครั้งแรกเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในราคาเหรียญละ 6.60 บาท และขายหมดเกลี้ยงภายใน 2 วัน
แต่ราคาล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคมลงมายืนที่ 4.98 บาท โดยวันที่ 24 ตุลาคมเคยสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ 4.68บาท
จากราคาสูงสุดที่ 25.25 บาท ตกรูดลงมาเหลือ 4.98 บาท หรือลดลงไป 20.27 สตางค์ หรือ ลดลงกว่า 70% ไม่ใช่เรื่องธรรมดา
กองทุนต่างชาติบางแห่งเริ่มปรับพอร์ตหุ้น JMARTแล้ว โดยทยอยขายหุ้นออก เช่น THE TON POH FUND ได้รายงานเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมถึงการขายหุ้น JMART ออกสัดส่วน 1.65% ของทุนจดทะเบียน เหลือหุ้นที่ถืออยู่3.43%
ผลประกอบการที่ทรุดลงในครึ่งปีแรก เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น JMART หัวทิ่ม นักลงทุนทยอยกันเทขาย แต่ราคาหุ้นน่าจะซึมซับรับข่าวไปแล้ว เพราะประกาศผลประกอบการงวด ครึ่งปีตั้งแต่เดือนสิงหาคม
ครึ่งปีแรก JMART ขาดทุนสุทธิ 142.72 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 263.79 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้ามีกำไรเติบโตต่อเนื่องหลายปี จ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ จนอยู่ในข่ายหุ้นเติบโตได้ยั่งยืน โดยมีค่าพี/อี เรโชระดับ 2 เท่าต้นๆ และอัตราเงินปันผลตอบแทนระดับ 3-4%
แต่สถานการณ์ขณะนี้เปลี่ยน เพราะค่าพี/อี เรโชล่าสุดพุ่งขึ้นไปประมาณ 43 เท่า ทั้งที่ราคาหุ้นลดลงแล้วกว่า 70% ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทนเหลือเพียง 1% เศษ
ใครที่ติดหุ้น JMART ไว้อยู่ในอาการที่น่าเป็นห่วง เพราะ JFIN COIN ที่ออกมาไม่ได้รับความนิยม ซื้อขายในตลาดรอง ไม่มีนักลงทุนเข้าไปเล่นเท่าไหร่ ราคารูดลงหนัก
ส่วน JMART กำลังจะกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่อนาคตไม่สดใส ครึ่งปีแรกขาดทุนอ่วม และครึ่งปีหลังไม่น่าจะกระเตื้องขึ้นเท่าไหร่ โดยจับสัญญาณจากราคาที่ดิ่งลงแรงต่อเนื่อง ก่อนที่จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3
ภาวะตลาดที่ทรุดหนัก ทำให้หุ้นแทบทั้งกระดานร่วงกันหมด เพียงแต่ JMART รูดก่อนที่ตลาดหุ้นจะถล่ม และอัตราการปรับตัวลงโดดเด่นกว่าหุ้นโดยทั่วไป เพราะประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนหน้า ยังยืนเหนือกว่า 9 บาท แต่หลุดลงมายืนต่ำกว่า 5 บาทเสียแล้ว โดยลดลงมากว่า 40% และแนวโน้มยังอยู่ในช่วงขาลงเต็มตัว
และเชื่อว่า การทรุดแรงเกือบตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเกี่ยวของกับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งยังไม่ประกาศให้สาธารณชนรับรู้ แต่อาจมีคนรู้ก่อน และชิงขายหุ้นออกมาก่อน
อีกไม่กี่วัน JMART จะประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 และเชื่อว่า อาจขาดทุนต่อเนื่องจากงวด 6 เดือนแรก แต่จะขายทุนขนาดไหน อดใจรอรอดูกัน
ส่วนราคาหุ้นลงไปรับข่าวล่วงหน้าแล้ว เพราะน่าจะมีคนขายชิงตัดหน้านักลงทุนทั่วไป
ติดหุ้น JMART ไว้ จะทำอย่างไรดี ชั่วโมงนี้หาคำตอบยากจริงๆ
________________
หนังสือ “หุ้นต้องห้าม” และ “หุ้นวายร้าย” โดย สุนันท์ ศรีจันทรา
สั่งจองได้ที่
inbox สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ คลิก https://m.me/BaanPhraAthit
Line คลิก https://line.me/R/ti/p/%40baan_athit