“อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง” เผยศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องโจทก์ ยื่นฟ้อง IECBP บริษัทย่อยฯ คดีซื้อขายโครงการโรงงานเอทานอลที่ระยอง เตรียมพิจารณากลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สิน 469 ล้านบาท ให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี
บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) แจ้งผลคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีซื้อขายโครงการโรงงานเอทานอลที่จังหวัดระยองของบริษัทย่อย ว่า ตามที่บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด (IECBP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยถือหุ้น 100 % ได้ถูก นายสมิทธิ์ จึงวิวัฒน์อนันต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลแพ่งในคดีซื้อขายโครงการโรงงานเอทานอลที่จังหวัดระยองนั้น เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวเป็นที่สุดแล้ว โดยมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ จึงมีผลทำให้ธุรกรรมการซื้อขายทรัพย์สินข้างต้นระหว่างบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แก๊สโซฮอล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IGA) ในฐานะจำเลยที่ 1 (ผู้ขายทรัพย์สิน) กับ IECBP เป็นนิติกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายทุกประการ และไม่ตกเป็นโมฆะแต่ประการใด
อนึ่ง ในงบการเงินรวมงวดปีก่อน ๆ ของบริษัทฯและ IECBP ได้หักค่าเผื่อการด้อยค่าของทรัพย์สินจากการซื้อขายทรัพย์สินและตั้งผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินจากการซื้อขายทรัพย์สินในโครงการดังกล่าวไว้จำนวน 469 ล้านบาท ดังนั้น โดยผลของคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ยกฟ้องโจทก์ดังกล่าว ซึ่งถือว่าคดีได้ยุติและถึงที่สุดแล้ว จะมีผลทำให้บริษัทฯ อาจจะต้องมีการพิจารณากลับรายการผลขาดทุนจากการด้อยค่าของทรัพย์สินที่ถูกรับรู้ในงวดก่อนเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและขั้นตอนทางการบัญชีในโอกาสต่อไป
ทั้งนี้ จากข้อมูลในงบการเงินรวมงวดปีก่อน ๆ ของบริษัทฯ ว่าเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2550 IECBP (ผู้ซื้อ) ในฐานะจำเลยที่ 5 ได้ถูก นายสมิทธิ์ จึงวิวัฒน์อนันต์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีต่อศาลแพ่งในคดีหมายเลขดำที่ 842/2550 เกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อทรัพย์สินโครงการโรงงานเอทานอลที่จังหวัดระยอง จาก บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล แก๊สโซฮอล์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IGA) ในฐานะจำเลยที่ 1 (ผู้ขายทรัพย์สิน) อันทุนทรัพย์ในการฟ้องร้องจำนวน 179.53 ล้านบาท โดยโจทก์ได้ยื่นฟ้องขอให้นิติกรรมการจดทะเบียนซื้อขายทรัพย์สินข้างต้นเป็นโมฆะและให้จดทะเบียนใส่ชื่อ IGA เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ตามเดิม หากไม่อาจกระทำได้ให้ IECBP ร่วมกับจำเลยที่เกี่ยวข้องชำระเงินจำนวน 179.53 ล้านบาท ให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2553 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2558 ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาแก้เป็นว่าให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาซื้อขายทรัพย์สินระหว่าง IGA กับ IECBP และให้ IECBP โอนทรัพย์สินกลับคืนให้ IGA ถ้าโอนทรัพย์สินไม่ได้ ให้ IECBP และจำเลยที่เกี่ยวข้องชดใช้เงินให้แก่โจทก์จำนวน 179.53 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นั้น ทาง IECBP จึงได้ยื่นฎีกา