AQUA ผนึก 3 นักธุรกิจรุ่นใหม่ชื่อดัง เปิดตัว FAB รวม 8 แบรนด์ยอดขาย 1,700 ล.

HoonSmart.com>> อควา คอร์เปอเรชั่น เปิดตัว “FAB” บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง ภายใต้การจับมือ 3 ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่หลงไหลเสน่ห์ของอาหาร “ฉาย บุนนาค -เต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี -เบียร์ ใบหยก”  รวม 8 แบรนด์ดังไว้ใต้หลังคาเดียวกัน คาดยอดขายรวม 1,700 ล้านบาท  ลุยปรับลุคร้าน เน้นความสนุกสนาน แบบชิคชิค เสริม ปิ้ง-ย่าง ปีหน้า

ทั้งนี้ FAB จะมีทุนจดทะเบียน 2,500 ล้านบาท โดย AQUA  ถือหุ้น 51% กลุ่มภิรมย์ภักดี  ในนามฟู้ด แฟคเตอร์ ถือหุ้น 40% และ เบียร์ ใบหยก ถือหุ้น 9%

นาย ฉาย บุนนาค รักษาการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA)  กล่าวว่า ภายใต้ FAB จะมี 8 แบรนด์อาหารดัง ได้แก่ Santa Fe, Santa Fe Easy, เหม็ง แซ็ปนัว, Sekai no Yamachan, ส้มตำเจ๊แดง สามย่าน, ราเมงเดส, อิคโคฉะ ราเมน และ อุชิดายะ ราเมน เป็นความร่วมมือของ 3 พาร์ทเนอร์ที่ต่างมีเป้าหมายเดียวกันและมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และมองว่าการทำ Synergy ร่วมกันครั้งนี้ ผลักดันให้กลุ่ม AQUA ในฐานะ Investment Company สามารถสร้างแหล่งรายได้จากประเภทธุรกิจอาหารได้มากขึ้น และมั่นใจว่าทีมที่มีประสบการณ์ รวมถึงได้รับเกียรติจากคุณ เบียร์ ปิยะเลิศ ใบหยก หรือ เบียร์-ใบหยก มานำทัพเป็น CEO ของ FAB เอง จะทำให้ FAB เป็นส่วนผสมที่ลงตัว ถ้าเทียบกับอาหารจานหนึ่งแล้ว ผมคอนเฟิร์มว่าจะต้องเป็นเมนูที่อร่อย จัดจ้าน ทานได้ไม่เบื่อ และได้การการันตีรางวัลจากนักทานอย่างแน่นอน

นายภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ กล่าวว่า แนวทางการดำเนินธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของกลุ่มบุญรอดฯ ตลอดระยะเวลากว่า 90 ปีที่ผ่านมา จะเน้น “คุณภาพ” ต้องดีที่สุดเท่านั้น เพื่อส่งมอบสินค้าคุณภาพให้แก่ผู้บริโภค บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการในกลุ่มร้านอาหาร ภายใต้บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ ให้ดียิ่งกว่าเดิม จึงร่วมมือกับบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น และนายปิยะเลิศ ใบหยก หรือเบียร์ ใบหยก ซึ่งเป็นทั้งรองประธานกลุ่มใบหยก และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท บีเอ็นเอฟ โฮดิ้ง โดยจะนำความถนัดและจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาผนึกกำลังกัน เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการ รวมถึงประสบการณ์ที่ดี ให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์สูงสุด

นายปิยะเลิศ ใบหยก (หรือ เบียร์ ใบหยก) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CEO บริษัท เอฟเอบี ฟู้ดโฮดิ้ง (FAB) เผยว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของ FAB จะเน้นที่กลุ่ม Young generation ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตลาดปัจจุบัน เพราะมีการตัดสินใจที่เฉียบขาด กล้าที่จะใช้จ่ายกับสินค้าและการบริการที่คิดว่าตอบโจทย์ความต้องการของตัวเอง และในขณะเดียวกันก็คงรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ด้วย โดยจะพยายามหาจุดเด่นของตัวเอง เพื่อเจาะเข้าถึงตัวลูกค้าได้และต้องเป็นผู้นำทุกเทรนด์ ที่สำคัญคือความจริงใจต้องมาก่อน จึงจะสามารถครองใจผู้บริโภคได้

“รวม 8 แบรนด์ คาดมียอดขายประมาณ 1,700 ล้านบาท เฉพาะในส่วนของแบรนด์เจ๊แดง มียอดขายปีละประมาณ 500 ล้านบาท จากการรวมตัวกัน 8 แบรนด์ในครั้งนี้ จะมีร้านรวมกัน 204 แห่ง ซึ่งจะมีการปรับมาใช้ครัวกลาง และรวมกันจัดซื้อวัตถุดิบ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนลงได้ นอกจากนี้ในบางสาขาของแต่ละแบรนด์ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่อาจจะนำแบรนด์อื่นเข้าไปรวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน จะช่วยลดการเช่าพื้นที่ และจะมีการปรับลุค หรือ รีแบรนด์ใหม่ ให้มีความสนุนสนาน สดใส และชิคๆ ตามสไตล์คนรุ่นใหม่ ไม่ให้น่าเบื่อ คาดว่าในจะใช้เงินประมาณ 40-50 ล้านบาทในปีหน้า และจะในปีแรกจะมีการเปิดแบรนด์ใหม่ เป็นร้านอาหารปิ้งย่าง เพราะปัจจุบันยังไม่มี และผมมีความถนัด เคยทำมากว่า 10 ปี ก่อนที่เจ้าของแบรนด์จะซื้อกลับไป “นายปิยะเลิศ กล่าว

นายวรภัทร ชวนะนิกุล Chief Financial Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง และกรรมการ บริษัท ฟู้ด แฟคเตอร์ กล่าวว่า “ปัจจุบันฟู้ด แฟคเตอร์ มีร้านอาหาร 3 แบรนด์หลัก ที่ให้บริการ มายาวนานจนได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ได้แก่ ซานตาเฟ่, ซานตาเฟ่ อีซี่ และเหม็ง แซ็ปนัว ซึ่งแต่ละแบรนด์มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเฉพาะ โดยมีความเชี่ยวชาญอาหารตะวันตกอย่างสเต๊กและอาหารอีสานซึ่งมีตลาดที่ชัดเจนอยู่แล้ว การรวมกันในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดการพัฒนาให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยยังคงรักษาหัวใจสำคัญในด้านคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์

นาย ชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ AQUA กล่าวว่า AQUA เข้าสู่วงการอาหาร โดยเริ่มจากธุรกิจราเมง ซึ่งคือ “Ramen Desu” (ราเมงเดส) ปัจจุบันมีอยู่ 5 สาขา และมองว่า ธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มั่นคง เติบโตตามการบริโภคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอาหารเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต และมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจต่ำกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แบรนด์ร้านอาหารที่ลงทุนครั้งนี้ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ได้รับการปลุกปั้นมาอย่างดีจากทั้ง 2 พันธมิตรอีกทั้งทุกแบรนด์ยังเป็นที่รู้จัก เปิดมายาวนาน ซึ่งจะสามารถส่งเสริมในแต่ละส่วนของกันและกันได้ และจะสามารถนำสิ่งที่ดีให้แก่ผู้บริโภคได้