SCB กำไรเพียง 1 หมื่นลบ.Q2 รายได้ดอกเบี้ยเพิ่ม สำรองหนี้ 11,626 ลบ.ลดลง 3.9%

HoonSmart.com>>”เอสซีบี เอกซ์” (SCB) เผยกำไรสุทธิไตรมาส 2/67 จำนวน 10,014 ล้านบาท ลดลง  15.6% มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ  32,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น สินเชื่อโตเพียง  0.6% รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 8.3% เหลือ 10,328 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 9.1% ตั้งสำรองหนี้ 11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9%  รวมลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งแล้ว  ส่วนผลงานครึ่งปีนี้มีกำไรสุทธิ  11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากปีก่อน

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2567 มีกำไรสุทธิ 10,014 ล้านบาท ลดลง 15.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ  21,295 ล้านบาท ลดลง 6.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในไตรมาส 2/2567 บริษัทฯมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ  32,576 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ในขณะที่สินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตรา 0.6%  จากการเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อและมุ่งเน้นการเติบโตของสินเชื่อที่มีคุณภาพ ภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน

รายได้ค่าธรรมเนียมและ อื่น ๆ มีจำนวน 10,328 ล้านบาท ลดลง 8.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัย ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมทางการเงิน และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 18,568 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (ก่อนรายการที่ เกิดขึ้นครั้งเดียว) อยู่ที่ 41.2%

บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 11,626 ล้านบาท ลดลง 3.9% จากปีก่อน รวมการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 161.7%

คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 3.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.8%

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์  กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าคาดการณ์และยังไม่มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการ ดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง เน้นความมั่นคงทางการเงิน รักษาระดับเงินสำรองให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มุ่งเน้นการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และการบริหารต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

“แม้จะมีความท้าทาย บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดให้นักลงทุนรวมถึงประชาชนทั่วไปเข้าถึง โอกาสการลงทุนที่มีผลตอบแทนมั่นคงอย่างทั่วถึง โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 7 ชุด มูลค่ารวม 42,000 ล้านบาท”นายอาทิตย์กล่าว

ด้านราคาหุ้น SCB  ซื้อขายที่ 101 บาท ลดลง 0.50 บาท ณ เวลาประมาณ 14.05 น. วันที่ 19  ก.ค. 2567