HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดลบ 52 จุด S&P 500 และ Nasdaq ยังทำนิวไฮ หวังเฟดลดดอกเบี้ย เทรดเดอร์คาดปรับลด 2 ครั้งในปีนี้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลงเป็นวันที่สามติดต่อกัน ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 1%
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 9 ก.ค.2567 ปิด 39,291.97 จุด ลดลง 52.82 จุด หรือ -0.13% ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ยังคงทำระดับปิดสูงสุดใหม่ หลังจากนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสถึงผลกระทบของการตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานเกินไป ทำให้นักลงทุนยังมีความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ ที่ 5,576.98 จุด เพิ่มขึ้น 4.13 จุด, +0.07%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,429.29 จุด เพิ่มขึ้น 25.55 จุด, +0.14%
ทั้ง ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ต่างปรับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 6
ในการรายงานนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้นายพาวเวลล์กล่าวว่า การตรึงอัตราดอกเบี้ยให้สูงนานเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งดูเหมือนเป็นการบอกเป็นนัยว่าเฟดกำลังพิจารณาใช้จุดยืนที่เข้มงวดน้อยลง
นายพาวเวลล์กล่าวว่า เศรษฐกิจไม่ได้ร้อนแรงเกินไปอีกต่อไป แต่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาประเทศพัฒนาด้วยกัน และไม่ว่าวัดจากทางไหนก็กลับไปที่ระดับก่อนโควิด และตลาดแรงงานก็แข็งแกร่ง แต่ไม่ร้อนแรงเกินไป
นายพาวเวลล์กล่าวว่า การลดข้อจำกัดทางนโยบายที่ช้าเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการจ้างงานอ่อนแอลงเกินควร “เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลง แต่การมีข้อมูลที่ดีมากขึ้นจะช่วยเสริมความเชื่อมั่นของเราว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนตัวอย่างยั่งยืนไปที่ เป้าหมาย 2%”
เทรดเดอร์ยังคงมองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ ขณะที่ไรอัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก Oxford Economics ระบุว่า มีความมั่นใจมากขึ้นในการคาดการณ์ว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
นายพาวเวลล์ยังมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (10 ก.ค.)ก่อนการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญในปลายสัปดาห์นี้ โดยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิถุนายนมีครบกำหนดเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีและดัชนีราคาผู้ผลิตในวันศุกร์
หุ้น Nvidia บวก 2.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท KeyBanc ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นสู่ระดับ 180 ดอลลาร์
ตลาดยุโรปปิดลบเป็นวันที่สามติดต่อกัน จากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นฝรั่งเศสด้วยควาไม่แน่นอนทางการเมือง ขณะที่นักลงทุนวิเคราห์ถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด
ดัชนี STOXX 600 ปิดลดลง 0.9% ซึ่งเป็นการลดลงรายวันที่มากที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน
ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสลดลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค โดยร่วงลง 1.6% ขณะที่นักลงทุนประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บรรดาผู้นำจากกลุ่มฝ่ายซ้ายที่ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดในการเลือกตั้ง และกลุ่มสายกลางที่ได้คะแนนเสียงตามมาเป็นอันดับสองต่างก็พยายามที่จะเป็นกลุ่มแรกที่จะจัดตั้งรัฐบาลขึ้น
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.6% หลังหุ้น Dassault Systemes บริษัทซอฟต์แวร์ของฝรั่งเศสร่วงลง 5.1% จากการปรับลดเป้าหมายผลประกอบการทั้งปี เนื่องจากลูกค้าระมัดระวังการใช้จ่ายและเลื่อนการเซ็นสัญญา
หุ้นบีพีของอังกฤษ ลดลง 4.2% หลังคาดว่ากำไรจากการกลั่นจะลดลง และการซื้อขายน้ำมันที่ซบเซาจะกระทบผลประกอบการไตรมาส 2 ส่งผลให้หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ลดลง 1.5%
นักลงทุนประเมินความเห็นของนายพาวเวลล์ในการแถลงต่อรัฐสภา โดยกล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และข้อมูลที่ดีมากขึ้นจะสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 511.76 จุด ลดลง 4.67 จุด, -0.90%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,139.81 จุด ลดลง 53.68 จุด, -0.66%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,508.66 จุด ลดลง 118.79 จุด, -1.56%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,236.19 จุด ลดลง 235.86 จุด, -1.28%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 81.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 84.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล