HoonSmart.com>>ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.67% Nasdaq ติดลบ 1.09% หลังนักลงทุนขายหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ โยกเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร เป็นหุ้น defensive และ cyclical ส่วนตลาดหุ้นยุโรป และราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 24 มิ.ย. 2567 ปิดที่ 39,411.21 จุด เพิ่มขึ้น 260.88 จุด หรือ +0.67% จากการที่นักลงทุนสลับการลงทุนโดยขายหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่และเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและธนาคาร ซึ่งจัดว่าเป็นหุ้น defensive และ cyclical
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,447.87 จุด ลดลง 16.75 จุด, -0.31%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,496.82 จุด ลดลง 192.54 จุด, -1.09%
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลุ่มใน S&P 500 ที่ลดลงมากที่สุด โดยลดลงกว่า 2% ขณะเดียวกันกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 2.7% และกลุ่มการเงินและกลุ่มสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นประมาณ 1%
หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเชฟรอนต่างบวกกว่า 2%
หุ้น Nvidia ลดลงประมาณ 6.7% แต่แม้จะมีการขายออก แต่ราคาหุ้นยังคงเพิ่มขึ้นเกือบ 140% ในปีนี้
ลาร์รี่ เทนทาเรลลี หัวหน้านักกลยุทธ์ด้านเทคนิคของ Blue Chip Daily Trend Report กล่าวว่า การปรับตัวลงของ Nvidia นั้นถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างดี สัปดาห์ที่แล้วและตอนนี้มีการสลับกลุ่มเล่นที่ดี นับเป็นการชะลอตัวชั่วคราวที่ดีในกลุ่มเทคโนโลยี และมีการหันกลับไปสู่ลงทุนในกลุ่มอื่นๆ ที่ร่วงลง
เดวิด มอร์ริสัน นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Trade Nation กล่าวว่า การขายทำกำไรไปบ้างก็สมเหตุสมผลเมื่อมองจากการเพิ่มขึ้นของ NVIDIA ปีนี้เพียงปีเดียวราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 180% แต่หากยังคงปรับลง ก็อาจส่งผลกระทบ โดยการขายจะกระจายไปยังบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อื่นๆ หากเป็นเช่นนั้น ในกรณีนี้ ตลาดอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยที่ลึกและยืดเยื้อมากขึ้น
นักลงทุนหันความสนใจไปที่ข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ให้ความสำคัญ ที่จะประกาศในวันศุกร์
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า Core PCE เมื่อเทียบเป็นรายปีจะอยู่ที่ 2.6% ในเดือนพฤษภาคม เทียบกับ 2.7% ในเดือนเมษายน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานเบื้องต้น ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) และ ประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรก ครั้งที่สอง ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ประเมินได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งเพียงใด รวมทั้งประเมินได้ว่าเมื่อไรที่เฟดอาจเริ่มการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบนี้ โดยตลาดคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในเดือนก.ย.นี้
นางแมรี ดาลี ประธานเฟดแห่งซานฟรานซิสโก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เฟดมีความคืบหน้าในความพยายามลดอัตราเงินเฟ้อ แต่ยังไม่สามารถปล่อยได้ ยังมีงานที่ต้องทำ นโยบายการเงินได้ผล แต่ต้องทำงานให้เสร็จ
ด้านตลาดยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ นำโดยหุ้นรถยนต์และการเงินที่ปรับตัวขึ้น ในขณะที่ความสนใจของนักลงทุนมุ่งไปที่การเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสรอบแรกในปลายสัปดาห์นี้
การเลือกตั้งรัฐสภารอบแรกของฝรั่งเศสจะมีขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ โดยผลโพลบ่งชี้ว่าพรรคเนชันแนล แรลลี (RN) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัดและพันธมิตรของพรรค RN มีคะแนนนำ
กลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 1.7% และนำการปรับขึ้น โดยธนาคารอิตาลี เช่น BPER, UniCredit และ Monte dei Paschi di Siena เพิ่มขึ้นระหว่าง 3.8% ถึง 4.9%
หุ้นรถยนต์พุ่งขึ้น 1.5% เนื่องจากสหภาพยุโรปและจีนตกลงที่จะจัดการเจรจาเกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ผลิตในจีน
ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจของเยอรมนีลดลงเกินคาดในเดือนมิถุนายน ภายหลังการสำรวจที่แสดงให้เห็นถึงมุมมองในด้านลบต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ 518.87 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด, +0.73%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,281.55 จุด เพิ่มขึ้น 43.83 จุด, +0.53%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,706.89 จุด เพิ่มขึ้น 78.32 จุด, +1.03%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,325.58 จุด เพิ่มขึ้น 162.06 จุด, +0.89%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.11% ปิดที่ 81.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 86.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล