ราคาน้ำมันดิบลดฮวบกว่า 4% ตามหุ้นโลกที่ร่วงลงหนัก

ราคาน้ำมันยังร่วงลงแรงต่อเนื่อง ปัจจัยลบถาโถมเข้ามา ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้ารูดลงแรงเกือบ 400 จุด ซาอุดิอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิต UBS คาดความต้องการใช้ปีหน้าโตเพียง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากเศรษฐกิจที่ซบเซา

บริษัท ไทยออยล์ รายงานราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงกว่า 4% ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส วันที่ 23 ต.ค.ปิดที่ 66.43 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 2.93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 76.44 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 3.39 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หลังดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าร่วงลงเกือบ 400 จุด ท่ามกลางความกังวลเรื่องอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกที่อาจหดตัวลง ประกอบกับนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับอิตาลี ที่ต้องการเพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีหน้า ทำให้คณะกรรมาธิการยุโรป จะตัดสินใจในวันนี้ว่าจะขอให้อิตาลีถอน แก้ไข และยื่นแผนงบประมาณฉบับใหม่หรือไม่

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียระบุว่า ซาอุดิอาระเบียพร้อมจะปรับเพิ่มกำลังการผลิต หากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ ส่งผลต่ออุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยนักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ซาอุดิอาระเบียไม่ต้องการเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับผู้ผลิตน้ำมันดิบรายอื่น

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก UBS คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปี 2562 จะเติบโตเพียง 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันแพงและเศรษฐกิจที่ซบเซา โดยคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD จะคงที่ ในขณะที่ในจีนและอินเดียยังคงเติบโตได้ดี

ภายหลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API)รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ สัปดาห์ก่อนหน้า เพิ่มขึ้นราว 9.9ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 418.4ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 3.7ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ส่วนราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยส่วนต่างราคาระหว่างน้ำมันดีเซลและน้ำมันดิบดูไบแตะระดับสูงสุดในรอบ
3 ปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในช่วงโรงกลั่นปิดซ่อมบำรุง

แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ไทยออยล์คาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 64-69 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 74-79 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล