HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 14.17 จุด อ่อนแอกว่าตลาดเอเชีย รับแรงกดดันจากบอนด์ยีลด์สหรัฐ-Dollar Index ขึ้น และการเมืองในประเทศกดดัน นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,612.80 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,743.39 ล้านบาท แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้แกว่ง Sideway Down หลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,320 พร้อมให้แนวรับ 1,300-1,310 แนวต้าน 1,340-1,345 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 มิ.ย.67 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,318.57 จุด ลดลง 14.17 จุด หรือ -1.06% มูลค่าซื้อขาย 38,324.69 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,329.81 จุด ต่ำสุด 1,313.26 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,612.80 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 300.55 บาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,743.39 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 169.96 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) และ Dollar Index ปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ด้านตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนลบ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองหลังฝรั่งเศสยุบสภา ส่วนตลาดหุ้นไทยก็ยังคงเผชิญแรงกดดันจาการเมืองในประเทศด้วย
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) โดยรอดูว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาใหม่หรือไม่ แต่หลักสำคัญอยู่ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่จะต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (กนง.) และศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาในกรณีของการยุบพรรคก้าวไกล รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคของจีน และสหรัฐฯ
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down หลังไม่สามารถยืนเหนือ 1,320 จุดได้ พร้อมให้แนวรับ 1,300-1,310 จุด แนวต้าน 1,340-1,345 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
INTUCH ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.40% มูลค่าซื้อขาย 2,124.08 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 4.84 บาท ลดลง 0.31 บาท หรือ -6.02% มูลค่าซื้อขาย 1,692.65 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 209.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -0.95% มูลค่าซื้อขาย 1,575.54 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.62% มูลค่าซื้อขาย 1,341.17 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 135.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.50% มูลค่าซื้อขาย 911.22 ล้านบาท