CFARM เปิดเทรดวันแรก 1.55 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 14.81%

HoonSmart.com>>หุ้น CFARM เปิดเทรดวันแรกที่ 1.55 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 14.81% บริษัทฯพร้อมเดินหน้าก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ด้านบล.ทิสโก้ คาดกำไรเติบโตตามรายได้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักขยายตัว  รายได้ปี 67 คาดสดใสจากราคาขายและความต้องการไก่เพิ่มสูงขึ้น  ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

หุ้น CFARM เปิดเทรดวันแรกที่ 1.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 14.81% จากราคาขาย IPO ที่ 1.35 บาท

นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) หรือ CFARM เปิดเผยว่า ภายหลังจากการระดมทุนบริษัทมีแผนลงทุนดังนี้ 1.เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ โดยภายในปี 2569 โดยบริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนโรงเรือนในการเลี้ยง ปรับปรุงระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ 2.เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ 3.คืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน CFARM มีจุดเด่นคือประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของกลุ่มผู้ก่อตั้งและผู้บริหาร ที่สืบทอดกิจการกันรุ่นต่อรุ่นตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มีการพัฒนาระบบการผลิตให้ทันสมัย และมีความพร้อมในการดำเนินงานสม่ำเสมอ จึงมีความชำนาญในการเลี้ยงไก่เนื้อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐาน และมีการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคู่สัญญาทุกรายเรื่อยมา โดยทุกฟาร์มได้รับการรับรองเรื่องการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อจากกรมปศุสัตว์ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เลี้ยงไก่เนื้อชั้นนำของประเทศไทย ด้วยกำลังการผลิตเลี้ยงไก่ประมาณ 15.9 ล้านตัวต่อปี

“ มีความมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท พร้อมกันนี้ยังได้ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมไก่เนื้อ ที่ในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และยังมีความต้องการบริโภคเนื้อไก่เติบโตตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับเกษตรกรมีการบริหารจัดการฟาร์มที่ได้มาตรฐาน และมีการควบคุมเฝ้าระวังโรคระบาดได้ดี ปศุสัตว์ไก่เนื้อมีผลผลิตเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขยายการผลิตเพื่อให้ตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มมากขึ้นทั้งธุรกิจอาหารและการท่องเที่ยว ขณะที่ความต้องการของตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกันทำให้มีปริมาณการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่เย็นแช่แข็ง” นายชูรัตน์ กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2565-2566 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 228.70 ล้านบาท และ 240.99 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีกำไรสุทธิ 21.97 และ 30.49 ล้านบาท ตามลำดับ และบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด จึงมั่นใจว่า CFARM จะมีโอกาสขยายธุรกิจได้อีกมากในอนาคต

บล.ทิสโก้ มองมูลค่าเหมาะสมของ CFARM ณ ราคา IPO ยังมี Upside โดยคาดรายได้ปี 2567 สดใส หลังราคาและความต้องการไก่เพิมสูงขึ้น จึงคาดว่าปริมาณไก่ที่จ้างเลี้ยงจะเพิ่มขึ้น และด้วยประสิทธิภาพการเลี้ยงไก่ที่ดีของบริษัทจะช่วยหนุนให้อัตราการเลี้ยงรอดเพิมขึ้น ทำให้จำนวนการส่งมอบไก่เนื้อดีขึ้น และเป็นปัจจัยบวกต่อรายได้จากผลพลอยได้ที่ขยายตัวตามรอบการเลี้ยงและปริมาณลูกไก่

ส่วนกำไรปี 2567 คาดเติบโตตามรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหลักขยายตัว รวมทั้งการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามต้นทุนยังคงผันแปรตามปริมาณการเลี้ยงไก่ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในการบริหารจะลดลงหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงมองว่าอัตรากำไรจะสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง