HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 2.40 จุด แกว่งไซด์เวย์ ได้แรงหนุนจากกลุ่ม Domestic plays ท่ามกลางกังวล Fund flow ผันผวนจากคาดเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. อีกทั้่งหุ้นใหญ่ KBANK, SCB ขึ้น XD กดดัน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 17 เม.ย.2566 ณ เวลา 10.02 น.อยู่ที่ระดับ 1,595.07 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ +0.15% มูลค่าซื้อขาย 4,562.18 ล้านบาท
บล.กรุงศรี มอง ประเมิน SET แกว่งตัว 1,585 – 1,600 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบที่ยืนทรงตัวระดับสูงจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน รวมถึงแรงซื้อดักงบไตรมาส 1/66 ที่กำลังจะทยอยประกาศจะชวยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามความกังวล Fund flow ที่ผันผวนจากคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. ประกอบกับการขึ้น XD หุ้นใหญ่เช่น KBANK SCB ในวันนี้จะกดดันภาวะตลาด จึงแนะนำ Selective buy
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองคาด SET Index แกว่ง Sideways to Sideways Up โดยมีแนวต้านในกรอบ 1,600-1,610 จุด หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลายตัวเริ่มออกมาผ่อนคลายและชะลอตัวลง เป็นไปในทิศทางที่ทำให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินได้ง่ายมากขึ้นในระยะถัดไป อย่างไรก็ตามตลาดขยับเพิ่มโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือน พ.ค. สู่ระดับ 5-5.25% เพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะขยับลงได้ต่อเนื่องในระยะยาว
ส่วนโฟกัสหลักของตลาดในสัปดาห์นี้คือตัวเลข GDP ไตรมาส 1/66 ของจีนซึ่งตลาดคาด +4% y-y เริ่มฟื้นตัวดีหลังเปิดประเทศและจะเร่งขึ้นอย่างมีนัยยะในไตรมาส 2/66 ส่วนปัจจัยในประเทศอยู่ที่การเริ่มทยอยประกาศกำไรไตรมาส 1/66 ของกลุ่มธนาคารเริ่มที่ TISCO วันพรุ่งนี้ ขณะที่การหาเสียงเลือกตั้งจะคึกคักมากขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้า ช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและเป็นบวกต่อ Domestic Play ต่อเนื่อง ส่วน Concern หลักของตลาดในระยะถัดไปจะอยู่ที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากอัตราดอกเบี้ยสูงที่เริ่มทยอยส่งผล ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและคาดกำไรไตรมาส 1/66 ออกมาแข็งแกร่ง
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 133.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.21% มูลค่าซื้อขาย 464.74 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.69% มูลค่าซื้อขาย 314.04 ล้านบาท
SCB อยู่ที่ 100.50 บาท ลดลง 5.00 บาท หรือ -4.74% มูลค่าซื้อขาย 292.91 ล้านบาท
CPALL อยู่ที่ 62.5 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ +1.21% มูลค่าซื้อขาย 273.35 ล้านบาท
EA อยู่ที่ 79.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +2.60% มูลค่าซื้อขาย 224.28 ล้านบาท