HoonSmart.com>> “บลจ.ยูโอบี” มองกรณี SVB กระทบในวงจำกัด ให้น้ำหนักดอกเบี้ย “เฟด” มากกว่า คาดขึ้น 0.25% ประชุมเดือนมี.ค.นี้ แนะจังหวะหุ้นไทยร่วงแรง ทยอยซื้อหุ้น มอง “กลุ่มที่ได้อานิสงส์เปิดเมือง-เลือกตั้งในประเทศ” อาจมี Upside Surprise หนุนดัชนี พร้อมให้เป้าสิ้นปีนี้ 1,700 จุด พร้อมคัดกองทุนเด่น จัดพอร์ตกระจายลงทุนรับมือความผันผวน
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนในปีนี้ยังมีความผันผวน การจัดสรรสินทรัพย์ยังคงต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ 1) เงินเฟ้อซึ่งแม้ว่าจะอยู่ในขาลงและน่าจะผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว แต่คาดว่าจะคงอยู่ในระดับสูงนานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 2)การใช้นโยบายทางการเงินและการคลังที่ต้องดำเนินการประสานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดหรือชะลอผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและ 3) ความเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนและผลกระทบด้านพลังงานในยุโรป
บลจ.ยูโอบีมองว่าการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความยืดหยุ่นจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยความเสี่ยงลงได้ ควรเน้นการกระจายความเสี่ยงในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับความผันผวนของตลาดและมองโอกาสที่ตราสารหนี้จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดค่อนข้างจำกัด พร้อมกันนี้ยังแนะนำให้แบ่งสัดส่วนการลงทุนในหุ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในหุ้นกลุ่มที่สามารถเติบโตได้อย่างมีคุณภาพในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะจีนที่เริ่มเปิดประเทศ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีน โดยการจัดสรรการลงทุนดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงได้แม้ในช่วงเวลาที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวลง รวมถึงการลงทุนแบบยั่งยืน (Sustainable Investment) เน้นลงทุนในธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG : Environmental, Social และ Governance)เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว
สำหรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Silicon Valley Bank (SVB) ซึ่งฐานลูกค้าไม่เหมือน Retail Bank ทั่วไป แต่เป็นแบงก์เฉพาะกิจ สตาร์ทอัพ เทค ความเสียหายกระจุกตัวในกลุ่มนั้น ซึ่งไม่เหมือนวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 จึงมองว่าจะไม่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ขณะที่กองทุนของบลจ.ยูโอบีไม่มีการลงทุนตรงใน SVB มีเพียงการลงทุนผ่านกองทุนหลัก (Master fund) ในต่างประเทศ ซึ่งกำลังรอข้อมูล แต่เท่าที่ดูมีสัดส่วนที่น้อยมาก แต่ยังคงติดตามสถานการณ์ต่อ
“นักลงทุนไทยไม่ควรตระหนกไปมาก เพราะเป็นปัญหาเฉพาะแบงก์และผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ก็เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเร็วและสถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้น อินเตอร์แบงก์ก็โอเค เรามองการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นประเด็นมากกว่า ซึ่งหลังเกิดกรณี SVB ทำให้เฟดน่าจะชอลอการขึ้นดอกเบี้ย เพราะเฟไม่ได้มองเพียงการเติบโตของเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องดูแลระบบการเงินด้วย และตอนนี้ตลาดคาดการณ์ประชุมเดือนมี.ค.นี้ เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% จากสัปดาห์ก่อนมองไว้ที่ 0.50% และตอนนี้มองเป็นโอกาสเช้าซื้อหุ้นบริษัทที่มีพื้นฐานดีและหาจังหวะที่เหมาะสม”นายวนา กล่าว
ด้านน.ส.วรรณจันทร์ อึ้งถาวร รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายการลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลก บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุน ตั้งแต่ต้นปีให้น้ำหนัก Neutral (คงน้ำหนักการลงทุน) ในหุ้น จากที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นจาก Underweight (ลดน้ำหนักการลงทุน) ส่วนตราสารหนี้ Slightly Overweight (ให้น้ำหนักมากขึ้นเล็กน้อย) ซึ่งจากเหตุการณ์ SVB ก็ยังคงมุมมองเดิมชอบตราสารหนี้มากกว่าหุ้นในช่วงนี้ โดยเน้นที่หุ้นกู้เอกชนคุณภาพดีมากกว่าไฮยิลด์ บอนด์ ยิ่งเกิด SVB ยิ่งทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงหรืออาจไม่ขึ้นเลยก็ได้ จึงมองตราสารหนี้น่าสนใจกว่าหุ้น
ส่วนหุ้นอาจรอข่าวเงินเฟ้อแล้วค่อยเข้าลงทุนในครึ่งปีหลัง และาจต้องระมัดระวังกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบต่อเนื่อง เช่น หุ้นกลุ่มเทค หุ้นกลุ่มเติบโต เมื่ออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและเป็นกลุ่มที่ Underperform และปรับขึ้นแรงในปีนี้ พอมีข่าว SVB อาจเห็นการสะดุดต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น ส่วนหุ้นยังลงทุนได้ แต่ต้องกระจายความเสี่ยงและสร้างสมดุลของพอร์ตในหุ้นคุณค่า หุ้นเติบโต หุ้นวัฎจักร เพื่อไม่ให้กระจุกตัวในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากเกินไป
น.ส.วรรณจันทร์ กล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะแบงก์ในไทยไม่ได้มีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ SVB ขณะที่ดัชนีปรับฐานลงหลุด 1,600 จุด มองเป็นจังหวะทยอยสะสมได้ โดยมองเป้าหมายดัชนีสิ้นปีนี้ที่ 1,700 จุด คาดการณ์กำไร 104 และพี/อี 16 เท่า โดยที่ผ่านมากำไรบจ.ถูกหั่นลงจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ ราคาน้ำมันปรับลดกำไรกลุ่มพลังงานลดลง กลุ่มแบงก์ตั้งสำรองมากขึ้นแนวโน้มหนี้เสียมากขึ้น ขณะที่กลุ่มสมอลมิดแคปมาร์จิ้นแคบลง โดยมองว่าการ Downgrade น่าจะดูชัดเจนขึ้นในไตรมาสสองนี้ หุ้นตกช่วงนี้เป็นจังหวะทยอยสะสมได้ คาดผลตอบแทนประมาณ 6-7% ในปีนี้รวมเงินปันผล 2.3%
ซึ่งเศรษฐกิจไทยได้รับผลดีจากการเปิดประเทศของจีน และการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น หากการเลือกตั้งราบรื่นมีการจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วก็จะเป็น upside surprise อย่างไรก็ตาม ตลาดก็ยังมี Downside risk เรื่องผลประกอบการลดลง และเรื่อง geopolitic
กลุ่มหุ้นที่ชอบยังคงเป็นกลุ่มเปิดเมือง ยังมี Upside Surprise ได้ เช่น จากคาดการณ์นักท่องเที่ยว 20-25 ล้านคนและตอนนี้ 25-30 ล้านคน ถ้าตัวเลขออกมาดีกว่าคาดก็อาจ Upside Surprise กลุ่มท่องเที่ยว โรงพยาบาลที่เน้นต่างชาติเข้ามารักษาและดูแลสุขภาพและอีกกลุ่มน่าสนใจ คือ EV และหุ้นยั่งยืนเป็นแนวโน้มระยะยาวพลังงานสะอาดน่าสนใจและกลุ่มสุดท้าย Digital Systym , Technology, Data Center น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้ผลดีสำหรับครึ่งปีแรกของปีนี้
นอกจากนี้การเลือกตั้งในประเทศ ซึ่งตอนนี้ทั้งคนไทยและต่างชาติยังคาดการณ์ไม่ถูก แต่หากจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วและภาพดูดีอาจเป็น Upside Surprise ได้เช่นกัน ส่วน Downside risk ยังเป็นเรื่องผลประกอบการที่อาจปรับประมาณการลงได้อีก หากเศรษฐกิจไม่ดี ส่งออกไม่ดี เศรษฐกิจโลกไม่ดีส่งผลต่อไทยมากขึ้นก็ ส่วนเฟดมีการเปลี่ยนแปลงตลอด เป็นความเสี่ยงทำให้ตลาดผันผวนและภูมิรัฐศาสตร์ต้องระมัดระวัง
ส่วนตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรป ยังคงต้องรอดูเศรษฐกิจที่ถดถอยบางๆ แต่ไม่น่ากลัวและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ชัดเจนก่อน จังหวะที่เหมาะสมคือ ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งจะกลับมาปรับตัวดีขึ้นได้ในปีนี้และห้นญี่ปุ่น
บลจ.ยูโอบีแนะนำกองทุนรวมเพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทย แคช แมเนจเม้นท์ ชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (TCMF) กองทุนเปิดไทย แคช แมเนจเม้นท์ ชนิดเพื่อผู้ลงทุนนิติบุคคล (TCMF-I) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล อินคัม สตราทีจิค บอนด์ ฟันด์ (UGIS) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกลบอล ควอลิตี้ โกรท ฟันด์ (UGQG-M) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อิควิตี้ ซัสเทนเนเบิล โกลบอล ฟันด์ (UESG-M) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ซัสเทนเนเบิล อิควิตี้ โซลูชั่น ฟันด์ (USUS-M) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด แบตเตอรี่ แอนด์ อีวี เทคโนโลยี ฟันด์ (UEV-M) กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ออล ไชน่า อิควิตี้ ฟันด์ (UCHINA-M) และกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า เอ แชร์ อินโนเวชั่น ฟันด์ (UCI-M)
อ่านข่าว
บลจ.ยูโอบีตั้งเป้า AUM ปี 66 โต 10% รุกช่องทางขายผ่านประกัน-ช็อปปี้-แกร๊บ