HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,552.70 จุด ลดลง 20.37 จุด ขายสินทรัพย์เสี่ยง-กังวลวิกฤตธนาคารในสหรัฐอาจจะส่งผลกระทบไปยังยุโรป แนวโน้มภาคบ่ายผันผวนในแดนลบอยู่ อาจมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามากดดัน แนวรับ 1,550-1,540 แนวต้าน 1,570-1,572 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 14 มี.ค.2566 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,552.70 จุด ลดลง 20.37 จุด หรือ -1.29% มูลค่าการซื้อขาย 49,893.22 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,572.36 จุด และต่ำสุด 1,552.05 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลง ได้รับ Sentiment ลบจากหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงด้วย โดยมีความกังวลภาคธนาคารในสหรัฐ ซึ่งวิตกจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังยุโรป แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะช่วยเหลือธนาคารที่มีปัญหาสภาพคล่อง แต่ตลาดหุ้นสหรัฐ และตลาดในยุโรปก็ยังปรับตัวลง จากแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ เห็นได้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวลงมาเหลือ 4% จาก 2 วันก่อนอยู่ที่ 5% ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 2 วันติดต่อกัน ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบเฉลี่ยกว่า 1% จะมีตลาดหุ้นฮ่องกง, ตลาดหุ้นเกาหลี และตลาดหุ้นญี่ปุ่น ที่ปรับตัวลงแรงถึง 2%
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ.ของสหรัฐในคืนนี้ และรอดูผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงบ่ายนี้ ที่จะมีการผลักดันรถไฟฟ้าสายสีส้ม
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดผันผวนในแดนลบอยู่ อาจมีแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามากดดัน โดยมีแนวรับ 1,550-1,540 จุด แนวต้าน 1,570-1,572 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 129.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.78% มูลค่าซื้อขาย 3,443.61 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 98.50 บาท ลดลง 1.25 บาท หรือ -1.25% มูลค่าซื้อขาย 2,028.81 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 60.25 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -2.82% มูลค่าซื้อขาย 1,799.55 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.74% มูลค่าซื้อขาย 1,463.12 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 203.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.50% มูลค่าซื้อขาย 1,455.62 ล้านบาท