HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 58 จุด สวน S&P500 บวกเล็กน้อย 0.14% Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.40% หลังตลาดแรงงานยังแกร่ง ข้อมูลจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.สหรัฐดีกว่าคาด นักลงทุนรอข้อมูลเงินเฟ้อบ่งชี้การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวกและลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 8 มีนาคม2566 ปิดที่ 32,798.40 จุด ลดลง 58.06 จุด หรือ 0.18% แม้มีแรงซื้อท่ามกลางการเทขาย หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญานการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นเวลานานในการให้ถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สอง
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,992.01 จุด เพิ่มขึ้น 5.64 จุด, +0.14%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,576.00 จุด เพิ่มขึ้น 45.67 จุด, +0.40%
นายพาวเวลล์แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ ซึ่งย้ำว่า ยังไม่มีการตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยขนาดไหนในการประชุมครั้งต่อไปที่กำหนดไว้ในเดือนมีนาคมนี้ แต่เฟดจะประเมินจากข้อมูลการเงินเฟ้อ ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์หน้า
“จากการที่เราบอกวาจะพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด ซึ่งจะนำเข้าไว้ในรายงานครั้งต่อไป เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่ยังไม่ตัดสินใจสำหรับการประชุมเดือนมีนาคม ประเด็นใหญ่กว่านั้นคือเราไม่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า”
ไมเคิล เฟโรลี หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจจากเจพีมอร์แกนระยุในบทวิเคราะห์ว่า ถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ บ่งชี้ว่าเฟดให้ความสำคัญกับข้อมูลที่จะออกมาในเร็วๆนี้ ในการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยครั้งต่อไป “จากข้อมูลมหภาคล่าสุดที่เอื้อให้เฟดดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดแล้ว ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้และดัชนี CPI ในสัปดาห์หน้าจะเป็นตัวเร่งสำคัญสำหรับเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรือ 0.50%”
นอกจากนี้ข้อมูลการจ้างงานล่าสุดยังสะท้อนว่าตลาดแรงงานยังตึงตัวท่ามกลางเงินเฟ้อที่สูง เศรษฐกิจยังแข็งแกร่งแม้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย และทำให้นักลงทุนวิตกว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในขนาดที่ใหญ่ขึ้น
ADP รายงานข้อมูลจ้างงานของภาคเอกชนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 242,000 ตำแหน่ง สูงกว่า 200,000 ที่นักวิเคราะห์คาด ด้านตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน(JOLTS)เดือนมกราคมลดลงมาที่ 10.82 ล้านตำแหน่ง จาก 11.2 ล้านตำแหน่งในเดือนธันวาคม และต่ำกว่า 10.5 ล้านตำแหน่งที่นักวิเคราะห์คาด
แม้นายพาวเวลล์ย้ำว่ายังไม่มีการตัดสินใจสำหรับการประชุมครั้งต่อไป แต่ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 75% ที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.50% ในการประชุมวันที่ 21-22 มีนาคม
นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนกุมภาพันธ์ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานยังทรงตัวที่ 3.4%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจอื่น สหรัฐฯขาดดุลการค้าเดือนมกราคมมากขึ้นรวม 68.3 พันล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ หลังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนเดือนกุมภาพันธ์สหรัฐดีกว่าคาดทำให้กังวลมากขึ้นต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ จากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารสหรัฐ(เฟด) ได้ส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็นเวลานานในการให้ถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสเป็นวันที่สอง
ขณะเดียวกันนักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูล GDP ไตรมาสสุดท้ายปี 2022 ของยูโรโซนที่ไม่ได้ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า และสำนักงานสถิติยูโรยังได้ปรับลดตัวเลข GDP และการจ้างงานลง
อย่างไรก็ตามดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นหลังแตะระดับต่ำสุดในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากนายพาวเวลล์ย้ำว่า ยังไม่ตัดสินใจว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเท่าไร
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงจากแรงเทขาย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 460.99 จุด เพิ่มขึ้น 0.39 จุด, +0.09%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,929.92 จุด เพิ่มขึ้น 10.44 จุด, +0.13%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,324.76 จุด ลดลง 14.51 จุด, -0.20%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,631.87 จุด เพิ่มขึ้น 72.34 จุด, +0.46%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 92 เซนต์ หรือ 1.19% ปิดที่ 76.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคมลดลง 63 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล