HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดพุ่ง 11.63 จุด ดูดีกว่าตลาดต่างประเทศ ลุ้น Fund Flow ไหลเข้าหลังบอนด์ยีลด์ลงมาต่ำกว่า 4% และ Dollar Index อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,144.14 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 25.32 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ถ้าถ้อยแถลงคืนนี้ของประธานเฟดออกมาไม่แย่ ก็จะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยให้แนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,635-1,640 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 7 มี.ค.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,618.51 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด หรือ +0.72% มูลค่าซื้อขาย 57,540.88 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,624.78 จุด ต่ำสุด 1,612.80 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,368.92 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 749.90 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 25.32 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 2,144.14 ล้านบาท
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้รีบาวด์ และเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ หลังจากที่ปรับตัวลงไปหลายวัน โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในแดนบวกในกรอบแคบ ส่วนตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหว Sideway up เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าตลาดคาด แต่ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง ซึ่งตลาดมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่ไกลกว่าคาด
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐปรับตัวลงมาต่ำกว่า 4% และ Dollar Index อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้มีลุ้น Fund Flow จะไหลเข้ามาในเอเชีย โดยเม็ดเงินเริ่มเข้ามาในตลาดพันธบัตรไทยบ้างแล้ว พร้อมให้รอดูคืนนี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงถึงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (8 มี.ค.) ถ้าถ้อยแถลงคืนนี้ของประธานเฟดออกมาไม่แย่ ก็จะทำให้ตลาดฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง โดยให้แนวรับ 1,600 จุด แนวต้าน 1,635-1,640 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
TRUE ปิดที่ 8.40 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ -2.33% มูลค่าซื้อขาย 7,036.86 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 154.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.33% มูลค่าซื้อขาย 2,590.34 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 141.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +1.08% มูลค่าซื้อขาย 2,039.96 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 69.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -1.06% มูลค่าซื้อขาย 1,837.36 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 996.00 บาท เพิ่มขึ้น 20.00 บาท หรือ +2.05% มูลค่าซื้อขาย 1,592.05 ล้านบาท