HoonSmart.com >> คิงส์เมน “K” เดินหน้าแผนธุรกิจ 2566 ..งาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โปร” หนุนรายได้เข้ามือราว 100 ล้านบาท พร้อมลุยรับงาน Interiors ที่เชี่ยวชาญ หมุนรอบเร็ว มาร์จิ้นสูง ควบคู่กับงาน Exhibition ประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรี่รายใหญ่ ตั้งเป้ารายได้ 850 ล้านบาท เตรียมแจก K-W2 สัดส่วน 6:1
นายวงศกร พิเศษสิทธิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท คิงส์เมน ซี.เอ็ม.ที.ไอ (K) เปิดเผยว่า บริษัท ฯ ได้ปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจปี 2566 ภายเศรษฐกิจฟื้นตัว งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ (Exhibitions) และธุรกิจงานตกแต่งภายใน (Interiors) กลับมาคึกคักขึ้น โดยลดขนาดงาน Interiors ลง หันมาเน้นรับงานระยะสั้น-ระยะกลางมากขึ้น รวมถึงจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นระดับลักซ์ชัวรี่ (Luxury) มากขึ้น อาทิ งานประเภท Pop-Up Store ในกลุ่มแบรนด์ลักซ์ชัวรี่รายใหญ่ (งานออกร้านต่าง ๆ ที่จะจัดในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นพื้นที่ให้แบรนด์นำเสนอความโดดเด่นในแบบของตัวเอง)
ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯ หันมาให้บริการกลุ่มลูกค้าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากงานประเภทดังกล่าว อยู่ในกรอบระยะเวลาในการการดำเนินงานไม่นานเกินไป สามารถหมุนรอบของกระแสเงินสดที่ไว และมีมาร์จิ้นที่ดี
ขณะเดียวกันในช่วงเดือนมีนาคม 2566 “K”จะมีงานโปรเจกต์ Motor Show ในส่วนการจัดบูธพิเศษเท่านั้น โดยเบื้องต้นได้วางเป้าหมายจะมีรายได้จากงานดังกล่าว ประมาณ 100 ล้านบาท และบริษัทฯคาดว่ามีงานโปรเจกต์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อรับงานอีกกว่า 10 ราย คาดสรุปดีลใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับจากภาพรวมธุรกิจปี 2565 ส่งสัญญาณเชิงบวก ประกอบกับแผนเดินเกมรุก ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในช่วงที่ผ่านมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
“บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ปี 2566 K จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ ได้อีกครั้ง พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ แตะระดับ 850 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ มาจาก 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ กลุ่มงาน Interiors 15-20% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือจะมาจากกลุ่มงาน Exhibition (เอ็กซิบิชั่น) และงาน Event (อีเว้นท์) ซึ่งล่าสุด บริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) รวมมูลค่า 400 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปี 2566 เกือบทั้งหมด
ทั้งนี้ K รายงานผลประกอบการ 2565 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2565 มีรายได้การให้บริการ 847.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% (YoY) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากงานแสดงสินค้าและกิจกรรมทางการตลาดที่มียอด เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 277.88 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นรวม 48% (YOY) จากงานกิจกรรมทางการตลาดที่เริ่มฟื้นตัว
ขณะที่สายงานธุรกิจก่อสร้างตกแต่งภายใน (Interior) มีสัดส่วนลดลงกว่า -44% จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ ให้สอดรับกับภาวะตลาด โดยเน้นรับงานโครงการที่มีขนาดเล็กลง และเน้นรับงานลูกค้าลักซ์ชัวรี่ (Luxury) ที่สามารถบริหารจัดการได้ทั่วถึง ส่งมอบงานได้ตามกำหนดและเน้นทำกำไรให้มากขึ้น
ภายใต้แผนการปรับกลยุทธ์ โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจก่อสร้างตกแต่งภายใน (Interior) และปิดกิจการบริษัทย่อยทั้งเมียนมาร์และกัมพูชา ส่งผลไตรมาส 4/2565 มีกำไร 20.55 ล้านบาท และทั้งปีพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 1.95 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ครั้งที่ 2 (“K-W2”) จำนวนไม่เกิน 79,922,412 หน่วย ให้ผู้ถือหุ้นเดิมฟรี สัดส่วน 6 หุ้นเดิม : 1 วอร์แรนต์ อายุ 1 ปี ราคาใช้สิทธิ 1:1:0.80 บาท
รวมทั้งยกเลิกการออกและเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพ มูลค่ารวม 300 ล้านบาท ที่จะเสนอขายให้ Advance Opportunities Fund (“AO Fund”) และ Advance Opportunities Fund 1 (“AO Fund 1”) เนื่องจาก หุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าว มีมูลค่าสูง และระยะเวลาค่อนข้างนาน