HoonSmart.com>>SSP กำไรตามนัด 1,302 ล้านบาท โตกระฉูด 51.5% บอร์ดใจดีจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด ทั้งปีแจกกว่า 4% บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจปี 68 ขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าโตทะลุ 2 เท่า แตะ 500 เมกะวัตต์
นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 443 ล้านบาท หรือ 51.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากปัจจัย Q2/65 รับรู้กำไรพิเศษ ขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348 ล้านบาท
หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ 1,020 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4 % เป็นผลจากการรับรู้กำไรเต็มปี ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 48 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ รับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 25% จะเห็นว่า โครงการต่าง ๆ ที่เข้าไปลงทุน ล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด
ขณะที่ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 4/2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 มีกำไรหลักจากการดำเนินงาน 180.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.9 % จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 178.7 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 698 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้นในอัตรา 10 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล และจ่ายปันผลเป็นเงินสดอีก 0.061 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค. 2566 กำหนดจ่ายวันที่ 25 พ.ค. 2566
ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท และเมื่อรวมกับปันผลสำหรับครึ่งปีหลัง 2565 อีกในอัตราหุ้นละ 0.061 บาท/หุ้น กับการจ่ายหุ้นปันผลในอัตรา 10:1 ที่ราคาพาร์ 1 บาท หรือ 0.1 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินปันผลตลอดทั้งปี 0.361 บาท/หุ้น สำหรับผลการดำเนินงานปี 2565
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น บริษัทจึงได้มีการจ่ายปันผลเป็นเงินสด นอกจากนี้ การจ่ายปันผลเป็นหุ้น จะช่วยให้บริษัทมีฐานเงินทุนที่พร้อมสำหรับการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทได้มีการเข้าร่วมการยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ในประเทศไทย ซึ่งจะมีความชัดเจนในเดือนมีนาคม 2566
การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 17 เมกะวัตต์ พร้อมที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 4 ปี 2567 การลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวทะลุ 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 236 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ช่วงปลายปีที่ผ่านมาได้จัดตั้งบริษัทลงทุน Sermsang Next Ventures เพื่อลุยธุรกิจใหม่ โดยเข้าไปลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโต และสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล สร้าง New S-curve สนับสนุนผลงานในอนาคตให้เติบโตก้าวแบบกระโดด
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า SSP ประสบความสำเร็จในการเป็นโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ มีทั้งการเริ่มพัฒนาโครงการตั้งแต่ต้น และการใช้กลยุทธ์ทำ M&A โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2566 บริษัทจะมีแนวโน้มรายได้และกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้” นายวรุตม์กล่าวในที่สุด