HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2.15 จุด อ่อนตัวตามความกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง หนุนบอนด์ยีลด์สหรัฐ-เงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้น และ Fund flow ไหลออกต่อเนื่อง อีกทั้งงบฯไตรมาส 4/65 โดยรวมยังต่ำกว่าคาด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 27 ก.พ.2566 ณ เวลา 9.59 น. อยู่ที่ระดับ 1,631.87 จุด ลดลง 2.15 จุด หรือ -0.13% มูลค่าซื้อขาย 1,687.29 ล้านบาท
บล.กรุงศรี มอง SET อ่อนตัวแนวรับ 1,630 -1,620 จุด ตามความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง โดยล่าสุดดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค. +5.4% หนุนให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield ), เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และ Fund flow ต่างชาติมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงกดดันดัชนี ดังนั้นจึงแนะนำ Selective buy
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index ยังอ่อนตัวลงต่อทดสอบระดับ 1,620-1,630 จุด ยังคงถูกกดดันจากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างเป็นลบทั้งฝั่งต่างประเทศ โดยเงินเฟ้อ PCE เดือน ม.ค. ของสหรัฐฯออกมาสูงกว่าคาดและเห็นการเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน ทำให้ตลาดเริ่มทยอยปรับเพิ่มโอกาสที่ เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร่งตัวเป็น 0.5% ในเดือน มี.ค. มากขึ้นด้วยความน่าจะเป็นราว 28% ส่งผลให้เม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้น พันธบัตร รวมถึงสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและเข้าถือดอลาร์
ส่วนในประเทศผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียน โดยภาพรวมที่ออกต่ำกว่าคาดยังทำให้ตลาดมี Concern ต่อแนวโน้มการฟื้นตัวในไตรมาส 1/66 ถึงปี 2566 ที่อาจช้ากว่าคาด ทำให้นักลงทุนต่างชาติยังมีแนวโน้มขายสุทธิต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมองจังหวะปรับฐานของดัชนีในช่วงปลายไตรมาส 1/66 ถึงไตรมาส 2/66 ยังเป็นโอกาสในการสะสมระยะกลาง-ยาวจากดอกเบี้ยของ เฟดที่จะ Peak และหยุดปรับขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดยังทยอยเร่งตัวและมี Catalyst จากการหาเสียงเลือกตั้งที่จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการบริโภค แนวรับหลักที่ 1,600 จุดและ 1,555 จุด
กลยุทธ์เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ระยะกลาง-ยาวทยอยสะสมหุ้นช่วงตลาดปรับฐานบริเวณ 1,600 จุดหรือต่ำกว่า
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB อยู่ที่ 104.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +2.96% มูลค่าซื้อขาย 210.72 ล้านบาท
EA อยู่ที่ 78.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +1.62% มูลค่าซื้อขาย 114.22 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +0.89% มูลค่าซื้อขาย 86.29 ล้านบาท
ADVANC อยู่ที่ 199.50 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.75% มูลค่าซื้อขาย 68.69 ล้านบาท
IVL อยู่ที่ 37.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.32% มูลค่าซื้อขาย 65.54 ล้านบาท