KJL ลั่นแผน 5 ปี โต 2 เท่า แจกปันผลหุ้น & เงินสด

HoonSmart.com >> KJL ลั่นแผน 5 ปี โต 2 เท่า ชูคอนเซ็ปต์ “อยู่ทุกที่ ที่มีไฟ” ขยายธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมนวัตกรรมใหม่ ” เกษมสันต์ สุจิวโรดม” ซีอีโอ ปลื้มรายได้-กำไร 2565 โต 40% แจกปันผลหุ้น 1:1-เงินสด 0.63 บาท คิดเป็นอัตรา 1.13 บาท 

นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค (KJL)  เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 5 ปี ( 2566-2570) ตั้งเป้ารายได้และกำไร เติบโต 2 เท่า จากปี 2565 ชูคอนเซ็ปต์ ” KJL ไปทุกที่ ที่มีไฟ ” ขยายธุรกิจเข้าทุกกลุ่มอุตสาหกรรม  ไมว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ , กลุ่มโรงพยาบาล ,  กลุ่มอุตสาหกรรม IT และ Data Center รวมถึง เทคโนโลยี IOT  และธุรกิจสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต

สำหรับการเติบโต 2 เท่า ประกอบด้วย การเพิ่มค้าร้านเครือข่าย จาก 400 ร้านค้าในปี 2565 เพิ่มเป็น 800 ร้านค้าในปีนี้ และ 1,000 ร้านค้าในปี 2567 และ1,200 ร้านในปี 2568 เป็นการเติบโตถึง 3 เท่าจากปีที่ก่อน , เพิ่มคลังสินค้า จาก 2,800 ตารางเมตร เป็น 3,500 ตารางเมตร รวมทั้งเพิ่มกำลังผลิตสินค้า 20% จาก 20 ล้านชิ้น/ปี เป็น 30 ล้านชิ้นในปี 2566 และ 2568 เพิ่มเป็น 40 ล้านชิ้น/ปี

ขณะเดียวกัน แผน 5 ปี ตั้งเป้ารักษากำไรขั้นต้น 28-30% ซึ่งบริษัทมีโอกาสเติบโตทั้งด้านกำไร และรายได้ ในอัตราที่สูงต่อเนื่องกว่า 2 เท่าภายในปี 2570

สำหรับปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,026.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.38% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 845.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 131.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.97% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 94.04 ล้านบาท

รายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากยอดขายสินค้ามาตรฐานเคเจแอล ประกอบไปด้วยตู้สวิทซ์บอร์ด รางเดินสายไฟ และกล่องพูลบ๊อกซ์ ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 171.10 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจ และการขยายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงรายได้จากการขายสินค้าสั่งผลิต  เพิ่มขึ้น  35.64 ล้านบาท และรายได้จากการขายเศษเหล็ก เพิ่มขึ้น 5.68 ล้านบาท ตามยอดขายสินค้ามาตรฐานเคเจแอลที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ตามราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทฯมีการใช้เทคโนโลยีระบบควบคุมการผลิตแบบ Industry 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ได้แก่ เครื่องตัดเลเซอร์ เครื่องเจาะด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องพับ และหุ่นยนต์พับอัตโนมัติ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงานฝ่ายผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯปรับสูงขึ้นเป็น 28.62% จากปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.46% และอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯปรับสูงขึ้นเป็น 12.83% จากปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.12%

“ในปี 65 ที่ผ่านมาผลประกอบการของเราเติบโตได้จากยอดขายสินค้ามาตรฐาน และสินค้าสั่งผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ถือว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนสูงที่สุดของบริษัทฯ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ การขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้า(EV) และพลังงานทดแทน รวมถึงการขยายการลงทุนใน EEC ของภาครัฐและเอกชน ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการสินค้าของเราเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีก่อนต่อเนื่องจนถึงปีนี้ และที่สำคัญเรายังใช้เทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถควบคุมต้นทุน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิตอีกด้วย” นายเกษมสันต์กล่าว

ทั้งนี้ KJL ประกาศจ่ายปันผลเป็นหุ้น อัตราส่วน 1 หุ้นเดิม : 1 หุ้นปันผล และเงินปันผลหุ้นละ 0.63 บาท รวมหุ้นปันผล+เงินปันผล คิดเป็นอัตราปันผล  1.13 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 เมษายน 2566