ดาวโจนส์ปิดร่วง 336 จุด เงินเฟ้อสูงเกินคาด

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 3 แห่งปีกหัวลงมากกว่า 1% หลังเงินเฟ้อสูงเกินคาด ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกต่อไป เทรดเดอร์ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าคาดขึ้นอีกอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ จุดสูงสุดจะอยู่ในช่วง 5.25-5.5% ภายในเดือนมิ.ย.  ด้านหุ้นยุโรปปรับตัวลง ราคาน้ำมันบวกเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 24 กุมภาพันธ์2566 ปิดที่ 32,816.92 จุด ลดลง 336.99 จุด หรือ 1.02% หลังดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาด ซึ่งเป็นสัญญาณว่า แรงกดดันราคาจะยังต่อเนื่องในปีนี้ ทำให้นักลงทุนวิตกว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,970.04 จุด ลดลง 42.28 จุด, -1.05%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,394.94 จุด ลดลง 195.46 จุด, -1.69%

ในรอบสัปดาห์นี้ทั้งสามดัชนีปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดในปีนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ลดลง 3.0% เป็นสัปดาห์ที่สี่ต่อเนื่อง ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.7% เป็นสัปดาห์ที่แย่สุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม และดัชนี Nasdaq ลดลง 3.3% เป็นสัปดาห์ที่สอง

กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนี PCE ทั่วไป เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น5.4% เมื่อเทียบรายปี ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานไม่รวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบรายปี

นอกจากนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งมีสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น1.8% จากที่ลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค.

รายงานเงินเฟ้อล่าสุดทำให้วิตกว่าเฟดจะยังปรับดอกเบี้ยขึ้นเพื่อลดแรงกดดันเงินเฟ้อ

เทรดเดอร์ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าคาดว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดจะอยู่ในช่วง 5.25-5.5% ภายในเดือนมิถุนายน

นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์กล่าวว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้มากขึ้นหากจำเป็นจะต้องควบคุมเงินเฟ้อ

ลิซ แอนน์ ซันเดอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนจาก Charles Schwab กล่าวว่า เงินเฟ้อจะไม่ลดลงหากว่าเศรษฐกิจในวงกว้างไม่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะตลาดแรงงาน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นมาที่ 3.95% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 2 ปีเพิ่มขึ้นมาที่ 4.81%

มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมาที่ 67.0 สูงกว่า66.4 ที่นักวิเคราะคาด

กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเทียบรายเดือน มาที่ระดับ 670,000 ยูนิต และสูงกว่า 620,000 ยูนิต ที่นักวิเคราะห์คาด แต่เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 19.4%

หุ้นโบอิ้งลดลงกว่า 4% หลังบริษัทระงับการส่งมอบเครื่องบิน 787 ดรีมไลเนอร์ชั่วคราว เนื่องจากมีประเด็นส่วนประกอบของลำตัวเครื่องบิน
หุ้นบียอนด์มีทส์บวก 10% หลังขาดทุนน้อยกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 3% กลุ่มเหมืองแร่ลดลง 2.8% ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจ และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

เศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาสสี่หดตัว 0.4% จากที่หดตัว 0.2% ในการรายงานเบื้องต้น ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ในอังกฤษดีขึ้น แต่ลดลงในเยอรมนีและฝรั่งเศส

นักลงทุนยังกังวลว่าธนาคารกลางยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะเงินเฟ้อยังสูงและมีสัญญานว่าเศรษฐกิจดีขึ้นและตลาดแรงงานยังตึงตัว

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 457.70 จุด ลดลง 4.80 จุด, -1.04%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,878.66 จุด ลดลง 29.06 จุด, -0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,187.27 จุด ลดลง 130.16 จุด, -1.78%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,209.74 จุด ลดลง 265.95 จุด, -1.72%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 76.32 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 1.16% ปิดที่ 83.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล