“บล.คิงส์ฟอร์ด” แนะ BCPG-NER

HoonSmart.com>> “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดแนวโน้ม SET ปรับฐานตามต่างประเทศ หลังบอนด์ยีลด์พุ่งแตะ 3.95 % จับตา Fed Minutes, US.PCE วางแนวรับ 1,655 – 1,660 จุด แนวต้านแรก 1,670 จุด คัดหุ้นวันนี้ แนะ BCPG-NER

บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด คาดดัชนี SETปรับฐานในกรอบแนวรับ 1,655 – 1,660 จุด แนวต้าน 1,670 – 1,675 จุด หลัง US Bond Yield ปรับขึ้นส่งผลให้ Flow ต่างชาติชะลอ และรอ Fed Minutes, US.PCE ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร BLA, TLI ปัจจัยบวก Bond Yield สูงขึ้น ทยอยซื้อ BJC, PLANB, ERW, WHA, ICHI

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -2.06%, S&P500 -2.00%, Nasdaq -2.50% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลเฟดอาจตึงดอกเบี้ยสูงอีกนาน หลัง PMI รวมภาคผลิตและ บริการสหรัฐ เบื้องต้น ก.พ. อยู่ที่ 50.2 & ม.ค. 46.8 อยู่ในโซนขยายตัว ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.19% หลัง PMI รวมภาคผลิตและบริการยูโรโซน เบื้องต้น ก.พ. อยู่ที่ 52.3 & คาด 50.60 & ม.ค. 50.3 ส่งผลให้คาด ECB จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ ขณะที่กลุ่มธนาคาร +0.80% นำโดย HSBC +4.3% รับรายงานกำไร Q4/65 ดีกว่าคาด

หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BCPG (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.80 บาท) แม้ทิศทางกำไรปกติใน 1Q66 จะยังไม่ดี กดดันจากปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาวที่เป็นช่วง Low Season รวมถึงยังมีการหยุดผลิตชั่วคราวเพื่อก่อสร้างสายส่ง นอกจากนี้ยังมี Solar Farm ในประเทศไทยบางโครงการที่ Adder หมดลง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าราคาหุ้นได้ลงมาสะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวแล้ว โดยกำไรที่ลดลงในปี 66 บางส่วนจะชดเชยด้วยการปรับขึ้นค่า Ft

ขณะที่เริ่มเห็นบริษัทประกาศเข้าลงทุนโครงการใหม่มาช่วยเติมส่วนที่หายไป เช่น การเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ กำลังการผลิตตามสัดส่วนรวม 151 Mwe สามารถรับรู้ผลประกอบการได้ทันที โดยคาดกำไรราว 200-300 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคลังจัดเก็บน้ำมันและท่าเทียบเรือ (เอเชียลิงค์ เทอมินัล) ที่จะเริ่มรับรู้กำไรเข้ามา 100-200 ล้านบาท/ปี

หุ้น NER (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.10 บาท) กำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 368 ลบ. (-39% YoY, -30% QoQ) ปัจจัยกดดันหลักมาจากราคาขายยางที่ปรับตัวลง อย่างไรก็ตามสำหรับช่วงถัดไป คาดว่า ราคาขายยาง มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น QoQ ใน 1Q-2Q66 หลังจีนเปิดประเทศ โดย ในปี 66 บริษัทวางเป้าปริมาณขายที่ 5 แสนตัน โฟกัสไปที่กลุ่มลูกค้าอินเดียมากขึ้น (คาดยอดขายปี 66 จากอินเดียราว 5 หมื่นตัน)

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการขยายกำลังการผลิตยางแท่งและยางแท่งผสม โดยการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 กำลังการผลิต 1.72 แสนตัน/ปี (คาดจะเสร็จใน1Q67) จะส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของ NER อยู่ที่ 6.88 แสนตัน/ปี ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี 66 และ 67 จะฟื้นตัวจากปี 64 ที่ 0.95 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 1.13 บาท/หุ้น, และ 1.21 บาท/หุ้น ตามลำดับ