HoonSmart.com>> เชฎฐ์ เอเชีย (CHASE) ผู้นำธุรกิจบริการติดตามทวงถามและบริหารหนี้เสียหรือ AMC พร้อมลงสนามเทรดใน SET วันแรก 21 ก.พ. นี้ นักลงทุนแห่จอง IPO อย่างล้นหลาม ธุรกิจเติบโต ตั้งเป้าซื้อ NPLs ปีละ 1,000 ล้านบาท หนุนกำไรโตก้าวกระโดดปี66
บริษัท เชฎฐ์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) (CHASE) บริษัทชั้นนำที่ให้บริการติดตามทวงถามและบริหารหนี้เสีย (AMC) ที่มีประสบการณ์มากกว่า 25 ปี เตรียมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันแรก 21 กุมภาพันธ์นี้ หลังได้รับความสนใจจากนักลงทุน แห่จอง IPO อย่างล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพที่โดดเด่นของ เชฎฐ์ เอเชีย ในอุตสาหกรรม AMC พร้อมนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจ โดยตั้งเป้าซื้อ NPLs ปีละ 1,000 ล้านบาท เพื่อสร้างผลกำไรอย่างก้าวกระโดดในปี 2566 พร้อมชูวิสัยทัศน์ในการสร้างการเติบโตธุรกิจ ควบคู่การเป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยกับลูกหนี้ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสมดุลในระบบเศรษฐกิจไทย
เชฎฐ์ เอเชีย ได้แสดงศักยภาพผ่านผลงานที่น่าประทับใจ ทั้งกระแสเงินสดจากพอร์ต NPLs ที่เติบโตกว่า 70% ในปีที่ผ่านมาหรือรวมกว่า 287 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจบริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน เชฎฐ์ เอเชีย ได้รับอัตราค่าคอมมิชชั่นในระดับสูงมากถึง 21.6% ในงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2565
ขณะที่ เชฎฐ์ เอเชีย มีการเติบโตที่ก้าวกระโดด ภาพลักษณ์ของธุรกิจบริหารหนี้สินยังคงเป็นที่สงสัยและไม่แน่ใจในความคิดของผู้คน แท้จริงแล้ว เชฎฐ์ เอเชีย มีจุดยืนที่โดดเด่นและเป็นเสน่ห์ที่แตกต่างในอุตสาหกรรม AMC โดยไม่เพียงแต่มุ่งสร้างผลกำไร แต่ยังต้องการเป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยกับลูกหนี้ เพื่อช่วยให้ลูกหนี้สามารถปลดเปลื้องหนี้สินได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยวิสัยทัศน์นี้มีพื้นฐานมาจากประสบการณ์อันยาวนานในวงการกว่า 30 ปี ของคุณประชา ชัยสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เชฎฐ์ เอเชีย ที่มีความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกหนี้และธุรกิจบริหารหนี้สินเป็นอย่างดี โดยมักจะย้ำกับทีมงานเสมอว่า “การตามหนี้ได้ก็ถือเป็นการสร้างประโยชน์แก่สังคมและประเทศเช่นกัน เพราะเมื่อสถาบันทางการเงินได้เงินกลับคืน จะช่วยเอื้อให้ต้นทุนทางการเงินต่ำลงและลดอัตราดอกเบี้ยได้ นับได้ว่าเป็นการสร้างสมดุลในระบบเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง”
นอกจากนี้ เสน่ห์อีกด้านหนึ่งของธุรกิจบริหารหนี้สินยังรวมถึงการเติบโตท่ามกลางการเติบโตในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะมีสภาพคล่องหรือถดถอย ก็ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง เมื่อเศรษฐกิจดี ประชาชนไม่ค่อยมีหนี้ ก็จะทำให้สามารถทวงถามหนี้ได้ไม่ยากนัก และเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว จะทำให้การเกิดหนี้เสียจำนวนมาก แม้จะเก็บเงินลูกหนี้ได้ยากขึ้น แต่บริษัทมีโอกาสซื้อหนี้เข้ามาบริหารจัดการได้มากขึ้น
ปัจจุบัน ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่านมา และการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยในปี 2564 มีอัตราส่วน NPL ต่อสินเชื่อรวมของธนาคารพาณิชย์มากถึง 531,000 ล้านบาท และคาดว่าธนาคารพาณิชย์จะต้องทยอยขายหนี้เสียออกมา หลังหมดมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากผลกระทบของโรค COVID-19 ในช่วงสิ้นปี 2565 ทำให้เป็นโอกาสในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ขณะที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้การชำระของลูกหนี้ดีขึ้น
ปีนี้จึงนับเป็นปีที่ดีของธุรกิจ เชฎฐ์ เอเชีย เนื่องจากน่าจะมีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกมาในตลาดมาก ขณะที่การจ่ายชำระของลูกหนี้ดีขึ้น นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจอย่างก้าวกระโดดต่อไป กลายเป็นเสน่ห์อีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน ส่งผลให้ ล่าสุด CHASE ขายหุ้น IPO จำนวน 562 ล้านหุ้นหมดเกลี้ยง หลังจากนักลงทุนสนใจแห่จองทะลัก
ในอนาคต หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เชฎฐ์ เอเชีย ยังวางแผนที่จะขยายทั้งธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) และธุรกิจให้บริการติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้สิน (Collection) โดยตั้งเป้าที่จะซื้อ NPLs ปีละ 1,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อแก่สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน (Unsecured Loan) ที่อยู่ในความเชี่ยวชาญของ เชฎฐ์ เอเชีย พร้อมขยายทีมเร่งรัดติดตามหนี้สินเพื่อรองรับการติดตามทวงถามหนี้ที่มีกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเต็มประสิทธิภาพ ควบคู่กับการเป็นที่ปรึกษาและให้ความรู้คู่วินัยกับลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง”