SGC-JMT-TH นำดิ่งกลุ่มไฟแนนซ์ หลัก ๆ มาจากกังวลงบฯจะไม่ดี

HoonSmart.com>>ดัชนีกลุ่มไฟแนนซ์ร่วง 3.94% นำดิ่งโดย SGC-JMT-TH-SINGER-NCAP หลัก ๆ มาจากงบฯบริษัทที่ประกาศออกมาแล้วไม่ดี-กังวลบริษัทอื่นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่ยังไม่ประกาศออกมาก็น่าจะออกมาในทิศทางเดียวกัน อีกทั้งวิตกการขึ้นดอกเบี้ยเฟดจะกดดันดอกเบี้ยไทย ส่งต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น รวมไปถึงเป้าแบงก์ชาติต้องการลดหนี้ภาคครัวเรือน-จะดึงหนี้นอกระบบเข้าสู่ระบบนั้น อาจทำให้กลุ่มไฟแนนซ์ต้องโฟกัสการปล่อยกู้มากขึ้น

เมื่อเวลา 15.47 น.ดัชนีกลุ่มไฟแนนซ์ร่วง 3.94% มาที่ 4,353.10 จุด ลดลง 178.48 จุด นำดิ่งโดยหุ้น SGC ร่วง 19.09% มาที่ 3.56 บาท ลดลง 0.84 บาท มูลค่าซื้อขาย 882.67 ล้านบาท
หุ้น JMT ร่วง 13.50% มาที่ 43.25 บาท ลดลง 6.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 2,507.39 ล้านบาท
หุ้น TH ร่วง 10.26% มาที่ 2.10 บาท ลดลง 0.24 บาท มูลค่าซื้อขาย 60.80 ล้านบาท
หุ้น SINGER ร่วง 9.95% มาที่ 19.00 บาท ลดลง 2.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,222 ล้านบาท
หุ้น NCAP ร่วง 8.02% มาที่ 4.36 บาท ลดลง 0.38 บาท มูลค่าซื้อขาย 136.48 ล้านบาท

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวลงแรงในวันนี้ หลัก ๆ มองว่ามาจากผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มที่ออกมาแล้วไม่ดีเท่าไร เห็นได้ NPL สูงขึ้น และยังต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นด้วย อย่างของ SINGER ซึ่งหลังจากที่ได้มีการจัดประชุมนักวิเคราะห์ฯแล้วทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 ของ SINGER ก็ยังไม่ดีต่อเนื่อง ทำให้กังวลว่าบริษัทอื่นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่ยังไม่ประกาศออกมาก็น่าจะออกมาในทิศทางเดียวกัน และยังวิตกเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกดดันดอกเบี้ยไทยไปด้วย และถ้าปรับขึ้นดอกเบี้ยก็ย่อมต้องกระทบต่อกลุ่มไฟแนนซ์ในแง่ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ มาตรการของแบงก์ชาติที่ต้องการปรับลดเป้าหนี้ภาคครัวเรือนให้ลดลง พร้อมกับยังต้องการจะนำหนี้นอกระบบเข้ามาสู่ระบบ ตรงนี้มีข้อดี และข้อเสีย โดยจะทำให้บริษัทไฟแนนซ์ต้องโฟกัสการปล่อยกู้มากขึ้น อาจมีลูกค้าบางส่วนที่ความสามารถในการชำระหนี้ต่ำ ซึ่งจะปล่อยก็ไม่ได้ ก็อาจต้องคิดอัตราดอกเบี้ยตามความเสี่ยง โดยลูกค้าเสี่ยงมาก็ปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยแพง แน่นอนว่าหนี้นอกระบบเข้ามาสู่ในระบบมากขึ้น ก็มีโอกาสที่หนี้ NPL จะสูงขึ้นด้วย

“หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์วันนี้ปรับตัวลงหลัก ๆ มาจากงบฯ ซึ่งต้องรอดูงบฯบริษัทอื่นที่ยังไม่ออกมาก่อน บริษัทไหนที่งบฯยังไม่ออกก็หลีกเลี่ยงลงทุนไปก่อน อย่างไรก็ดี ภาพรวมกลุ่มไฟแนนซ์ในปี 66 ยังมีการเติบโตได้ จากความต้องการสินเชื่อที่ยังมีอยู่”