PQS เดินหน้าขยายกำลังผลิต ปักธงอุต ฯ มันสำปะหลังอาเซียน

HoonSmart.com>> PQS เดินหน้าขยายโรงงานและกำลังผลิต เป็น 3.6 แสนตัน/ปี มุ่งสู่ธุรกิจอุตฯ สำปะหลังในระดับอาเซียน ตั้งเป้าเติบโตยั่งยืน ด้านราคาหุ้นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เปิดสูงที่ 14 บาท แจกกำไร 133.33% กลับปิดต่ำสุดที่ 5.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -4.17% จากราคา  IPO  ที่ 6 บาท   มูลค่าซื้อขาย 9,655.55 ล้านบาท  บล.ทิสโก้มองธุรกิจน่าสนใจในเชิงของการเติบโตจากอุปสงค์ที่เริ่มกลับมาในต่างประเทศ 

นายสมยศ ชาญจึงถาวร ประธานกรรมการ บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช  (PQS)  เปิดเผยว่า หุ้น PQS ซื้อขายวันแรก (15 ก.พ.2566 ) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ( SET) นักลงทุนตอบรับคึกคัก ซึ่งการเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้ บริษัทจะสร้างโรงงานแป้งมันสำปะหลัง รองรับความต้องการของตลาดอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น มุ่งสู่ การเติบโตและเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลัง ระดับอาเซียน และอุตสาหกรรมแปรรูปอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับอาหาร รวมทั้งการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพในโรงงาน และจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืน

นายรัฐวิรุฬห์ ชาญจึงถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PQS กล่าวว่า เงินระดมทุน ส่วนหนึ่งนำไปขยายโรงงานผลิตมันสำปะหลังแห่งใหม่ เพิ่มกำลังผลิตเป็น 3.6 แสนตัน/ปี จากปัจจุบัน  2.4 แสนตันต่อปี

นอกจากนี้ PQS ยังได้ศึกษาแผนลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติมต่อยอดธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ  เน้นบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาอัตราการเติบโตของผลประกอบการของ PQS ให้อยู่ในระดับที่ดีต่อไป

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี(2562-2564) มีรายได้ 1,255.70 ล้านบาท 1,282.05 ล้านบาท และ 2,254.03 ล้านบาท ตามลำดับ  กำไรสุทธิ อยู่ที่ 66.75 ล้านบาท, 82.09 ล้านบาท และ 313.82 ล้านบาทตามลำดับ

ส่วนปี 2565 คิดเฉพาะงวด 9 เดือน มีรายได้ 1,757.57 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 211.36 ล้านบาท

รายได้หลัก มาจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังเกรดพรีเมี่ยม ซึ่งมีแผนขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมจากตลาดหลักในปัจจุบัน คือ ประเทศจีน

นายเสกสรรค์ ธโนปจัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิน พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน  กล่าวว่า หุ้น PQS มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจสูง  แผนการใช้เงินทุนขยายธุรกิจตามแนวทางที่บริษัทฯ วางไว้ โดยเฉพาะการลงทุนเปิดโรงงานใหม่จะสนับสนุนให้ PQS มีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังเพิ่มขึ้น 70% และสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน ซึ่งโรงงานใหม่ของ PQS จะเสร็จเรียบร้อยในปี 2566 เริ่มดำเนินการผลิตอย่างเป็นทางการในปี 2567 และทำให้ผลประกอบการโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2567 เช่นกัน

นายธีรฉัตร ศิลปสนธยานนท์ ผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด แกนนำขาย PQS กล่าวว่า หุ้น PQS เป็นหุ้นน้องใหม่ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี จากผลประกอบการที่ดีต่อเนื่อง มีศักยภาพการเติบโตสูง ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพของบริษัทฯ มั่นใจว่า PQS จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ในระยะยาว

บล.ทิสโก้ มองว่า บริษัท พรีเมียร์ควอลิตี้สตาร์ช  เป็นธุรกิจที่มีความน่าสนใจในเชิงของการเติบโตจากอุปสงค์ที่เริ่มกลับมาในต่างประเทศ (ยอดขายส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70%) ทำให้อัตราการใช้ประโยชน์ของโรงงานเพิ่มขึ้น อีกทั้งปัจจุบัน PQS ยังได้รับประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้านการลงทุนให้ ยกเว้นภาษีได้ทั้งในส่วนของธุรกิจแป้งมันและธุรกิจไฟฟ้า และการที่กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทได้มีการทำสัญญาเพิ่มเติมว่าจะไม่มีการขายหุ้นที่ถือภายใน 180 วัน เป็นการสร้างความมั่นใจแก่นักลงทุน

หากเทียบกับบริษัทในตลาด เช่น TWPC แล้วแม้จะมียอดขายที่น้อยกว่าแต่ด้วยการใช้ประโยชน์โรงงานที่สูงกว่าทำให้มีอัตรากำไรที่ดีกว่า ด้านการประเมินมูลค่าหากเทียบกับ TWPC ที่ PER ปัจจุบันอยู่ที่ 13-14 เท่า จะได้มูลค่าเหมาะสมราว 7.20-7.60 บาท รอดูการเปิดโรงงานของ PMS ในช่วงไตรมาส 4

ด้านราคาหุ้น PQS  เสนอขาย IPO ราคา 6 บาท ราคาเปิดตลาดวันแรก 14 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 133.33% จากนั้นราคาย่อลงเล็กน้อย ก่อนจะมีแรงซื้อไล่ราคาขึ้นไปสูงสุด 15.80 บาท เพิ่มขึ้น 9.8 บาท หรือ 163.33%  และมีเทขายต่อเนื่อง ราคาลงไปปิดที่ 5.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -4.17% จากราคา  IPO   มูลค่าซื้อขาย 9,655.55 ล้านบาท