MEB มอบของขวัญรับวาเลนไทน์เทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 57.89% การันตี E-Book เบอร์ 1 เมืองไทยในแง่รายได้รวม โดยมีผู้ใช้งานกว่า 8 ล้านราย เตรียมยกทัพวรรณกรรมไทยบุกต่างประเทศ หนุนอนาคตโตแกร่ง
บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น (MEB) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันแรก ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไปอย่างดีเยี่ยม โดยเปิดซื้อขายที่ 45.00 บาท เพิ่มขึ้น 16.50 บาท หรือ 57.89% เปรียบเทียบจากราคาไอพีโอที่ 28.50 บาท/หุ้น
นายรวิวร มะหะสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEB กล่าวว่า ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น มูลค่าซื้อขายคึกคัก สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐาน ธุรกิจวรรณกรรมออนไลน์ E-Book ผ่านแพลตฟอร์ม meb และ readAwrite มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 จากรายได้รวม งวด 9 เดือน /2566 มีจำนวนผู้ใช้งาน (Registered Users) ประมาณ 8.20 ล้านราย เฉลี่ยต่อเดือน 6.29 ล้านราย และที่ผ่านมายังสร้างผลงานที่โดดเด่นโดยมีรายได้รวม 1,263.54 ล้านบาท มีกำไรสุทธิมากถึง 241.85 ล้านบาท
“ผมขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้การตอบรับหุ้น MEB เป็นอย่างดี ผมพร้อมทั้งคณะทำงานอยู่ในธุรกิจนี้มากว่า 11 ปี มีความรู้ในธุรกิจนี้ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เข้าใจความต้องการของกลุ่มนักอ่านและนักเขียน เชื่อมั่นธุรกิจมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยหลังระดมทุน ช่วยเพิ่มศักยภาพขยายธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจทั้งการสร้างแพลตฟอร์มใหม่หรือการควบรวมกิจการหรือการเข้าซื้อกิจการในอนาคต มุ่งสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปได้ในอนาคต” นายรวิวร กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำขายหุ้น MEB กล่าวว่า การเข้าเทรดในวันแรกได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ที่มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโตโดดเด่น มีอนาคตที่น่าสนใจ เนื่องจากแนวโน้มของโลกในปัจจุบันที่ทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแพลตฟอร์มของ MEB ที่มีการใช้เทคโนโลยีผสมผสานกับคอนเทนต์ที่น่าสนใจทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี
“MEB มีความพิเศษเฉพาะตัว ทำให้มีความน่าสนใจในการลงทุนเป็นอย่างมาก และทีมผู้บริหารมีความตั้งใจ ที่จะสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ไปพร้อมกับความมุ่งมั่นที่จะนำคอนเทนต์ต่าง ๆ ของนักเขียนไทย แปลเป็นภาษาต่างชาติสู่ตลาดสากล ตามแผนการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นบริษัทในเครือของ CRC ที่มีชื่อเสียงระดับโลกทำให้มีความได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจและขยายกิจการ นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิอีกด้วย” นายพิเชษฐ กล่าว