HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 4.60 จุด รับ Sentiment ลบจากนอกประเทศ กังวลการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ-Fund Flow ไหลออก-แรงขายหุ้นที่งบฯแย่กว่าคาด นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,441.29 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,234.22 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าผันผวนอิงขาลง แนวรับ 1,660-1,655 แนวต้าน 1,670-1,675 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,664.57 จุด ลดลง 4.60 จุด หรือ -0.28% มูลค่าซื้อขาย 58,917.38 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,668.97 จุด ต่ำสุด 1,660.10 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,441.29 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 83.59 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,234.22 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 123.48 ล้านบาท
น.ส.ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบขาลงต่อเนื่อง รับแรงกดดันจาก Sentiment นอกประเทศ จากความกังวลทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่ทรงตัวในระดับยาวนานเกินไป จากที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความเห็นจะยังใช้นโยบายการขึ้นดอกเบี้ยอยู่ อีกทั้ง Fund Flow ไหลออกต่อเนื่องทั้งในตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้น ซึ่งถ้าอยู่ยอดเงินลงทุนของต่างชาติที่ซื้อมากในช่วงต้นปีราว 22,000 ล้านบาท ได้ลดลงเรื่อย ๆ จนตอนนี้ต่างชาติมียอดซื้อสุทธิอยู่ราว 900 ล้านบาท ซึ่งหุ้นขนาดใหญ่ถูกขายออกมา
นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ออกมาแย่กว่าคาดทำให้เจอแรงขายออกมาด้วย ซึ่งส่งผลให้ EPS ตลาดถูกปรับลงมาด้วย อย่างไรก็ดี หุ้น ADVANC ที่งบฯออกมาดีตามตลาดคาด ทำให้ช่วยประคองตลาดได้บ้าง และตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ อย่างโครงการช้อปดีมีคืน ซึ่งมาตรการนี้ก็จะหมดในสัปดาห์หน้าแล้ว ทั้งนี้ ตลาดเริ่มหันมาเล่นหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ทำให้ตลาดขึ้นไปได้ยาก ส่วนการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ก็มีหุ้นเข้าหลายตัวในกลุ่ม Small Cap. ช่วยหนุนหุ้นรายตัวไป ซึ่งจะมีผล 28 ก.พ.นี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้ามีโอกาสที่จะเห็นเม็ดเงินไหลออก และถ้างบฯออกมาไม่ดีก็จะกดดันให้ตลาดผันผวนอิงอ่อนตัวได้ โดยสัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลข GDP ของไทยที่จะออกมาช่วงปลายสัปดาห์ และติดตามเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง พร้อมให้แนวรับ 1,660-1,655 จุด แนวต้าน 1,670-1,675 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BANPU ปิดที่ 10.90 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 4,216.44 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 206.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.50 บาท หรือ +3.26% มูลค่าซื้อขาย 3,282.03 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 100.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -2.90% มูลค่าซื้อขาย 2,971.18 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 164.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ +1.86% มูลค่าซื้อขาย 2,870.47 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 143.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -1.04% มูลค่าซื้อขาย 2,537.56 ล้านบาท