HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 3.17 จุด ตอบรับเฟดขึ้นดอกเบี้ยไปมากแล้ว แม้ได้แรงหนุนจากกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไร้ปัจจัยใหม่หนุน ตลาดจึงขึ้นไม่ไหว นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,663.90 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 797.04 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ แนวรับ 1,680-1,675 แนวต้าน 1,690-1,695 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 ก.พ.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,682.58 จุด ลดลง 3.17 จุด หรือ -0.19% มูลค่าซื้อขาย 62,319.50 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,692.94 จุด ต่ำสุด 1,681.74 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,663.90 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 179.62 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 797.04 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,687.24 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ออกด้านข้าง แต่ดูจะอ่อนกว่าที่คาดไว้ ทั้งที่ได้แรงหนุนจากฝั่งสหรัฐ ในประเด็นธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี่ย 0.25% ตามคาด และคาดเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้งก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ตลาดก็ตอบรับเรื่องเฟดไปมากแล้ว ซึ่งตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แต่ก็ทำให้ดัชนีฯขึ้นไปไม่ไหว และยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ดูจะอ่อนกว่าตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้บวกได้ดี ซึ่งได้แรงหนุนจากฝั่งสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี จะต้องรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งตลาดคาดทั้งสองธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ตลาดคงจะเคลื่อนไหวไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,680-1,675 จุด แนวต้าน 1,690-1,695 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 916.00 บาท เพิ่มขึ้น 18.00 บาท หรือ +2.00% มูลค่าซื้อขาย 3,158.04 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 170.00 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.73% มูลค่าซื้อขาย 3,045.66 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.94% มูลค่าซื้อขาย 2,021.16 ล้านบาท
HANA ปิดที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท หรือ +7.44% มูลค่าซื้อขาย 1,942.37 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 144.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.35% มูลค่าซื้อขาย 1,738.68 ล้านบาท