HoonSmart.com>> “เอสซีบี เอกซ์” โชว์กำไรสุทธิปี 65 จำนวน 37,546 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น สินเชื่อเติบโต 3% ด้านค่าใช้จ่ายและตั้งสำรองลดลง พร้อมตั้งเป้าปี 66 สินเชื่อเติบโต 5-8% NIM สูงกว่า 3.5% รายได้เติบโตมากกว่า 10%
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยงวดปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2565 มีกำไรสุทธิ 37,546.01 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 11.12 บาท เพิ่มขึ้น 5.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 35,589.99 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 10.47 บาท
ในปี 2565 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 107,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% จากปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิภายใต้กลยุทธ์การเติบโตที่เน้นคุณภาพสินเชื่อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 3.3% จากปีก่อน
รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 44,866 ล้านบาท ลดลง 4.7% จากปีก่อน เป็นผลจากการชะลอตัวของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง อีกทั้งรายได้จากการลงทุนและการค้ามีจำนวน 1,689 ล้านบาท ลดลง 79.1% จากปีก่อน เนื่องจากความผันผวนอย่างสูงของตลาดเงินและตลาดทุนในปีที่ผ่านมา
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 69,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% จากปีก่อน เป็นผลจากกิจกรรมธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ในระดับที่ เหมาะสมที่ 45.2% ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียงเล็กน้อย
บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 33,829 ล้านบาท ลดลง 19.5% จากปีก่อน สะท้อนถึงการบริหารคุณภาพสินเชื่อด้วยมาตรการเชิงรุกและความระมัดระวังตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาดมาโดยตลอด ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวของภาคธุรกิจ ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 159.7%
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 2565 อยู่ที่ 3.34% ปรับตัวลดลงจาก 3.79% ในปีก่อน เป็นผลของความสำเร็จในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แบบเบ็ดเสร็จภายใต้กรอบของธนาคารแห่งประเทศไทย และการบริหารสินเชื่อด้อยคุณภาพที่มีประสิทธิภาพ และเงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.9%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ กล่าวว่า ในปี 2565 บริษัท เอสซีบี เอกซ์ ได้ปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้ยุทธศาสตร์ยานแม่แล้วเสร็จ และพร้อมเดินหน้าก้าวสู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะหนึ่งถึงสองปีจากนี้จะมุ่งเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดของธุรกิจในกลุ่มสินเชื่อดิจิทัล ซึ่งได้มีการเตรียมตัวทั้งในแง่ทีมงานและกลยุทธ์มาระยะหนึ่งแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังคงเน้นกลยุทธ์การก้าวไปสู่ธนาคารที่ดีขึ้น (Be a Better Bank) ของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเน้นการเติบโตแบบมีคุณภาพภายใต้โครงสร้างต้นทุนที่ลดลง สำหรับธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลนั้น จะเน้นการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสภาวะตลาด
ในส่วนของผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตและความมั่นคงของสถานะการเงินได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมภายใต้ความผันผวนอย่างสูงของตลาดเงินตลาดทุน บริษัทฯ เชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มในระยะต่อไปจะยังมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากยุทธศาสตร์ยานแม่และการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ
พร้อมกันนี้ SCB แจ้งเป้าหมายของปี 2566 สินชื่อเติบโต 5-8% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเติบโตมากกว่า 3.5% รายได้เติบโตมากกว่า 10% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ราว 40% กลางๆ ส่วนอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเดคริตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่ออยู่ที่ 1.20-1.40% จำนวนลูกค้าที่ 35 ล้านราย แบ่งเป็น ธุรกิจธนาคาร 18 ล้านราย บริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล 13 ล้านราย และแพลตฟอร์มและสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ล้านราย
ทั้งนี้ เป้าหมายดังกล่าวเป็นการคาดการณ์เบื้องต้น อาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาพคการดำเนินธุรกิจที่อาจไม่เป็นไปตามที่คาด หากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป