บล.บัวหลวงคัด 7 กองทุนตัวท็อปปี 66 แนะจัดพอร์ต “เน้นตั้งรับ ปลอดภัย กระจายลงทุน”

HoonSmart.com>> “บล.บัวหลวง” ประเมินภาพรวมลงทุนปี 66 ยังต้องระมัดระวัง ตลาดถูกปกคลุมด้วยหลายปัจจัยเสี่ยง แนะกลยุทธ์ “เน้นตั้งรับ ปลอดภัย กระจายการลงทุน ไม่กระจุกตัวในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง” ช่วยลดความผันผวนของพอร์ตลงทุน พร้อมคัด 7 กองทุนตัวท็อปจัดพอร์ตลงทุน รับเงินเฟ้อพ้นจุดพีค กระจายลงทุนกลุ่ม Defensive “เฮลทธ์แคร์-ทองคำ” หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมากแนวโน้มฟื้นตัว “หุ้นจีน-เวียดนาม-หุ้นเทคโนโลยีและหุ้นไทยกลุ่มเติบโตสูง”

บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ประเมินปี 2566 ยังเป็นปีที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากตลาดยังคงถูกปกคลุมด้วยความเสี่ยงหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย ความเสี่ยงจากการดำเนินโยนายการเงินของธนาคารกลางทั่วโลก ความเสี่ยงในการเปิดประเทศของจีน รวมถึงความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ได้ยาก ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในปี 2566 จะต้องเน้นตั้งรับ ปลอดภัย และต้องกระจายการลงทุนไม่กระจุกตัวอยู่ในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่ง เพื่อช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน

สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อ คาดว่าน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ส่งผลให้การดำเนินนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกอยู่ในทิศทางที่ชะลอตัวลง โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสหยุดขึ้นดอกเบี้ยในปี 2566 อย่างโรก็ตามการที่เฟดจะกลับมาลดดอกเบี้ยอีกครั้ง จำเป็นต้องพิจารณาตลาดแรงงานประกอบด้วย ดังนั้นการลงทุนในกาวะที่เงินเอและดอกเบี้ยนโยบายถึงจุดสูงสุด ทุ่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยยังคงปกคลุมตลาด

บล.บัวหลวง มองว่าการลงทุนในตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทนที่ดี และช่วยลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน เน้นลงทุนในตราสารหนี้กาครัฐ และเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ Investment Grade ขึ้นไป

“ภาวะตลาดที่ยังคงมีความผันผวนจากความเสี่ยงหลายประการ เราต้องเน้นแบนตั้งรับ และปลอดภัย เราแนะนำกระจายลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive อย่างกลุ่ม Healthcare ซึ่งมีความทนทานในช่วงที่สกาวะเศรษฐกิจชะล่อตัว หรือ เศรษฐกิจถดถอย และกำไรของบริษัทไม่ค่อยผันผวนไปตามกาวะเศรษฐกิจ รวมถึงควรกระจายการลงทุนในทองคำ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจถดถอยได้ ทั้งนี้ แนวโน้บที่ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางอ่อนค่า และความต้องการทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นจากรนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังปกคลุม จะเป็นปัจจัยหนุนให้กับการลงทุนในทองคำ” บล.บัวหลวง แนะนำ

ด้านตลาดหุ้นทั่วโลกต่างให้ผลตอบแทนที่ติดลบในปีที่ผ่านุมา โดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Growth อย่างเทคโนโลยี รวมถึงตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นเวียดนามที่มีปัจจัยลบเฉพาะตัว จากการที่ทางการเนินนโยบาย Zero Covid และรัฐบาลเวียดนาต่างเดินหน้าตรวจสอบการทธุจริตในธุรกิจ ทั้งนี้จากการที่ Underperform ในปี 2565 และปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นมีโอกาสคลี่คลายในปี 2565 จึงทำให้การลงทุ่นในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นจีน และหุ้นเวียดนาม ต่างกลับมาความน่าสนใจ รวมถึงหุ้นไทย แนะนำให้กระจายการลงทุนตามสัดส่วนที่สามารถรับความเสี่ยงได้ โดยหลีกเหลี่ยงการลงทุนที่กระจุกตัว จนทำให้พอร์ตไม่มีความสมดุล

บล.บัวหลวงคัดกองทุนตัวท็อป ( BLS TOP FUNDS ) ปี 2566 แนะนำกองทุน KKP ACT FIXED รับเงินเฟ้อผ่านจุดพีค กองทุนลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐและหุ้นกู้เอกชนทั้งในและต่างประเทศที่มีอายุตราสารเฉลี่ยระยะกลาง มีการจัดอันดับตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป (Investment Grade) ซึ่งกองทุนนี้ลงทุนในหุ้นกู้เอกชนได้รับการจัดอันดับ Credit Rating ตั้งแต่ IG ขึ้นไป (เป้าหมาย Average Credit Rating : A) อีกทั้งกองทุนไม่เคยมีประวัติลงทุนในตราสารหนี้ที่ผิดนัดชำระหนี้และกองทุนได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว

กองทุนในกลุ่ม Defensive ได้แก่ KFHHCARE-A ลงทุนในธุรกิจกลุ่ม Healthcare ที่มีศักยภาพเติบโตสูงผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ JP Morgan Funds-Global Healthcare Fund, Class (acc) โดยกองทุนนี้น่าสนใจเนื่องจากลงทุนในหุ้น Healthcare ทั้งแบบดั้งเดิมและนวัตกรรม อีกทั้งผู้จัดการกองทุนมีประสบการณ์และเป็นผู้เชี่ยวาญด้าน Healthcare มาอย่างยาวนาน และกองทุนยังมีโอกาสลงทุนในหลากหลายธุรกิจกลุ่ม Healthcare

กองทุน SCBGOLDH ลงทุนและมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกผ่านกองทุนรวม ETF : SPDR Gold Trust ซึ่งกองทุนนี้น่าสนใจเนื่องจากกองทุนหลักลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงและมีผลการดำเนินงานโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม ค่าธรรมเนียมกองทุนอยู่ในระดับต่ำและมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

กลุ่มกองทุนที่ปรับตัวลงมากในช่วงที่ผ่านมาและแนวโน้มน่าจะดีขึ้น ได้แก่ กองทุน UOBSGC ลงทุนในตลาดกลุ่ม Greater China ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่ององ เซี่ยงไฮ้ เซิ้นเจิ้นและไต้หวัน ด้วยกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนี MSCI ACGolden Dragon Index เน้นลงทุนในหุ้น Big Cap เป็นลักษณะหุ้น Value ที่มีรายได้และกำไรสม่ำเสมอ ด้านผลการดำเนินกองทุนโดดเด่นเมื่อเทียบกับกลุ่ม อีกทั้งกองทุนได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว

กองทุน B-VIETNAM ลงทุนหุ้นเวียดนามที่ดำเนินธุรกิจหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจเวียดนาม เน้นลงทุนในธุรกิจที่ได้รบประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศการเปิดเมือง (Reopening) อีกทั้งมีการกระจายลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม ผลงานโดดเด่นแม้ตลาดมีความผันผวนสูง

กองทุน B-INNOTECH ลงทุนในธุรกิจกลุ่มเทคโนโลยีมีคุณภาพดีทั่วโลกและมีศักยภาพเติบโตสูง ผ่านกองทุนรวมต่างประเทศ Fidelity Funds – Global Technology Fund, Class YACC-USD โดยกองทุนลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีที่เป็นผู้นำตลาด มีรายได้และกำไรสม่ำเสมอ เป็นที่รู้จักในตลาด มีการคัดเลือกหุ้นเทคโนโลยีคุณภาพดีทั่วโลก หลีกเลี่ยงหุ้นแพงและกองทุนยังได้รับการจัดอันดับ Morningstar 5 ดาว

กองทุน LHGROWTH-D เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีและมีศักยภาพในการเติบโต มีมูลค่าที่เหมาะสม ไม่สูงจนเกินไป โดยกองทุนเน้นกลยุทธ์การลงทุนแบบ Balance Portfolio รวมทั้งกองทุนมีผลการดำเนินงานโดดเด่นและมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ