“อาร์เอส” เดินสายพบนักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นตอบรับดี เป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนด้าน Growth Stock คาดเห็นสัดส่วนนักลงทุนสถาบันต่างชาติถือเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จกับธุรกิจใหม่ Multi-platform Commerce (MPC) มาแรงเป็นดาวเด่นดันรายได้รวมทั้งกลุ่มแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า อาร์เอสมีโครงสร้างธุรกิจที่โดดเด่นพิเศษ และมีผลประกอบการเติบโตที่แข็งแกร่ง จึงได้รับเลือกเชิญแบบเฉพาะเจาะจงเป็น 1 ใน 6 องค์กรจากประเทศไทย เพื่อนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนสถาบันในงาน Thailand Corporate Day 2018 by Daiwa Capital Markets & Thanachart Securities ระหว่างวันที่ 4-5 ตุลาคม 2561 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปรากฎว่า กระแสตอบรับดีและได้รับความสนใจอย่างมากจากกองทุนชั้นนำ เนื่องจากอาร์เอสเป็นหนึ่งในหุ้นขวัญใจนักลงทุนทางด้านการเติบโต (Growth Stock) เพราะเป็นธุรกิจที่อยู่ในช่วงของการขยายตัว ทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และอยู่ในดัชนี SET100 Index จึงคาดว่านับจากนี้จะได้เห็นผลตอบรับและสัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่มนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น ถือเป็นการส่งสัญญาณอันดีช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้นที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันการันตีถึงคุณภาพของบริษัทฯ เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มนี้มักวิเคราะห์ข้อมูลอย่างดีในทุกมิติก่อนตัดสินใจลงทุน และเป็นกองทุนที่มีการลงทุนแบบระยะยาว ซึ่งจะทำให้หุ้นมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับประเด็นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจมากที่สุดในการประชุม (conference) ครั้งนี้ คือ การพลิกโอกาสจากการบริหารธุรกิจดั้งเดิมอย่างมีเดียและมิวสิคที่ถนัดและเป็นผู้นำระดับประเทศ เดินหน้าขยายตัวสู่ธุรกิจใหม่ Multi-platform Commerce (MPC) แล้วประสบความสำเร็จกลายเป็นธุรกิจหลักในขณะนี้ รวมไปถึงทิศทางการดำเนินงานและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มแรงดีต่อเนื่องยาวไปถึงไตรมาส 4 เนื่องจากเพิ่มจำนวนสินค้า (SKU) รวมเป็นกว่า 100 SKU ภายในสิ้นปีนี้ รวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์เฮลท์แอนบิวตี้มาทำตลาดและจัดจำหน่ายเอง เพื่อเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นมากขึ้น และการเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออหสู่ท้องตลาด อีกทั้งฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็น 1 ล้านราย และคาดว่าจะขยับเป็น 1.1-1.2 ล้านรายในสิ้นปีนี้ พร้อมกับการพัฒนาทีม telesales ให้มีความแข็งแกร่งและมีความชำนาญในการปิดการขายและมียอดขายมากขึ้น ทำให้รายได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ช่อง 8 ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นกัน เตรียมเพิ่มคอนเทนต์ใหม่อีกเพียบเพื่อดันเรตติ้งพุ่งกระฉูดสร้างฐานการขายเวลาโฆษณาในปี 2562 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยล่าสุดคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูง ได้แก่ ละครใหม่ “สาปกระสือ” ว่าด้วยตำนานความเฮี้ยนของกระสือที่อยู่คู่กับสังคมไทยมานาน ได้ “น้ำตาล ชาลิตา แสนแสน่ห์” อดีตนางงามเวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มารับงานแสดงเป็นครั้งแรก แสดงคู่กับ “สมาร์ท กฤษฏา” พระเอกระดับแถวหน้าเมืองไทย ที่ทำเรตติ้งพุ่งทะยานสูงสุดแตะ 2.105 ไปแล้ว และยังเป็นแรงส่งไปยังซีรีส์อินเดีย “พิฆเนศ มหาเทพไอยรา” ที่ออนแอร์ต่อเนื่องดันเรตติ้งเพิ่มขึ้นทันที
นอกจากนี้ วันที่ 31 ตุลาคม 2561 กำหนดใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ (RS-W3) ครั้งที่ 3 ราคาใช้สิทธิ 12.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเงินที่ได้จากการแปลงวอร์แรนต์ทั้งหมดคาดว่าจะนำไปลดเงินกู้ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน แบ่งเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนแรกใช้พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของช่อง 8 และการลงทุนผลิตรายการต่างๆ ตามแผนการเติมคอนเทนต์ต่อเนื่อง ส่วนที่สองใช้รองรับแผนขยายตลาดเชิงรุกสอดรับกับเทรนด์ตลาดสุขภาพและความงามที่กำลังเป็นที่นิยม โดยใช้พัฒนาระบบคอลเซ็นเตอร์และระบบฐานข้อมูลลูกค้า (Database) ทำให้เกิดความแม่นยำในการทำตลาดมากยิ่งขึ้น ตลอดจนจัดการระบบคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด