HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.30% หลังเงินเฟ้อเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 7.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด บนความคาดหวังเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกในปีหน้า ระดับอัตราดอกเบี้ย(terminal rate) สูงสุดจะอยู่ที่ 4.85% ลดลงจาก 5%ที่คาดไว้ก่อนหน้า หุ้นยุโรปและราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 13 ธ.ค. 2565 ปิดที่ 34,108.64 จุด เพิ่มขึ้น 103.60 จุด หรือ 0.30% จากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด ขณะที่ นักลงทุนรอผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,019.65 จุด เพิ่มขึ้น 29.09 จุด, +0.73%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,256.81 จุด เพิ่มขึ้น 113.08 จุด, +1.01%
ตลาดปรับตัวขึ้นหลังกระทรวงแรงงานรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเดือนพ.ย.เพิ่ม 7.1% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ต่ำกว่า 7.3% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.0% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 6.1% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
เงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในเชิงรุกได้ในต้นปี 2566 และอาจจะเริ่มชะลอขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ที่จะสิ้นสุดในวันพุธ(14 ธ.ค.) ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50%
จีนา โบลวิน ผู้บริหารระดับสูงของ Bolvin Wealth Management Group ระบุในแถลงการณ์หลังการเผยแพร่เงินเฟ้อว่า เป็นเดือนที่สองติดกันที่เงินเฟ้ออ่อนตัวลง แต่การประชุมของเฟดในเดือนนี้จะยังไม่การเปลี่ยนแปลงอะไร จึงคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่สิ่งที่สำคัญคือทิศทางของนโยบาย
ตลาดจับตาการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดหลังการประชุมซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ยังคาดว่าระดับอัตราดอกเบี้ย(terminal rate) สูงสุดจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะอยู่ที่ 4.85% ลดลงจาก 5%ที่คาดไว้ก่อนหน้า
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.421% หนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเมตาแพลตฟอร์มบวก 4.7% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 2.5%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน WTI บวกต่อเนื่องโดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.1% หุ้นเชฟรอน บวก 2.2%
หุ้นโบอิ้งบวก 0.5% จากรายงานข่าวว่า สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ สั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 787 Dreamliners จำนวน 100 ลำ
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 3.1% หลังการายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาด
เจน โฟเลย์ ฝ่ายบริหารเงินตราจาก Rabobank กล่าวว่า เงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ความสนใจพุ่งไปที่ทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในปีหน้า แต่การประชุมครั้งนี้จะยังคงขึ้นดอกเบี้ย 0.50% นอกจากนี้เงินเฟ้อที่อ่อนตัว ทำให้คาดว่าเงินเฟ้อในยูโรโซนและในอังกฤษก็น่าจะชะลอตัวลงด้วย แต่ยังเป็นเวลาอีกหลายเดือนที่กว่าดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุด ไม่ว่าในสหรัฐ ยุโรปหรืออังกฤษ
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษในวันพฤหัสบดีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 442.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.62 จุด, +1.29%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,502.89 จุด เพิ่มขึ้น 56.92 จุด, +0.76%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ ที่ 6,744.98 จุด เพิ่มขึ้น 94.43 จุด, +1.42%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,497.89 จุด เพิ่มขึ้น 191.26 จุด, +1.34%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.22 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 75.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.69 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 80.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล