HoonSmart.com>>โบรกเกอร์มีมุมมองบวกกรณี “สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง” หรือ SPRC ปรับโครงสร้างธุรกิจรุกค้าปลีกน้ำมันแบรนด์ Caltex คาดช่วยสร้างรายได้เข้าบริษัทปี 67 ส่วนผลการดำเนินงานปี 66 ฟื้นตัวดีขึ้น โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเหมาะสม 12.70-16.30 บาท
จากการที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.65 มีมติให้ SPRC ปรับโครงการองค์กรเพื่อเข้าสู่ธุรกิจการตลาด ด้วยการลงทุน 3 รายการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 5,562.5 ล้านบาท โดยจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติธุรกรรมดังกล่าวในวันที่ 31 ม.ค. 66 โบรกเกอร์มีมุมมองที่เป็นบวกต่อการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้
บล.ทิสโก้ ระบุว่า การเข้าซื้อธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจาก Chevron ถือว่าราคามีส่วนลด และเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ ผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นทันทีคือ สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำมันคงคลังสำหรับการค้ารายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยบริหารจัดการปริมาณน้ำมัน จากตลาดส่งออกมายังตลาดภายในประเทศได้ดีขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 12.90 บาท
บล.เคจีไอ ประเมิน Sentiment บวกจากการทำดีลเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ โดยคาดการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จในกลางปี 67 และประเมินกำไรจากธุรกิจใหม่นี้ อยู่ที่ราว 800 – 1,000 ล้านบาท ต่อปี หรือคิดเป็นราว 10 – 13% ของกำไรรวมปี 67 ระดับ Forward P/E ปี 66 เท่ากับ 8.3 เท่า และคาดจะจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงาน ไตรมาส 2/65 ราว 0.76 บาท/หุ้น (Dividend yield 6.3%) แนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 16.30 บาท
บล.ฟิลลิปส์ ปรับคำแนะนำเพิ่มขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ทยอยซื้อ” ราคาเหมาะสม 12.70 บาท ระบุว่าการที่ SPRC ปรับโครงการองค์กรเพื่อเข้าสู่ธุรกิจการตลาด ด้วยการลงทุนคือ 1) เข้าถือหุ้น Chevron Lubricants 100% และ BAFS 2.51% ซึ่งหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรเสร็จสิ้น Chevron Lubricants จะดำเนินธุรกิจการตลาดภายใต้แบรนด์ Caltex 2) เข้าถือหุ้น Thappline 9.91% และ 3) จัดตั้งบริษัทใหม่ 2 บริษัท เพื่อเข้าซื้อที่ดินจำนวน 19 แปลง รวมมูลค่า 5,562 ล้านบาท คาดว่าเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากเงินสดจากการดำเนินงานเป็นหลัก และใช้ระยะเวลาในการปรับโครงสร้างองค์กรราว 1 ปี และผลจากดีลดังกล่าวจะรวมในงบการเงินราวไตรมาส 1/67
สำหรับผลการดำเนินงานปกติของ SPRC ก่อนการลงทุนจะมีผลในปี 67 บล.ฟิลลิปส์ ระบุว่า คาดว่าไตรมาส 4/65 ผลการดำเนินงานจะฟื้นตัว q-q เนื่องจากคาดว่าจะได้ส่วนช่วยจาก crude premium ที่ลดลงจาก 10$/bbl ในไตรมาส 3/65 เป็น 7$/bbl อีกทั้งคาดว่าการใช้กาลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 95%จาก 88% ในไตรมาส 3/65 ตามอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นในไทยหยุดซ่อมไป 2 แห่ง และคาดส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ยังคงอยู่ในระดับสูงจากการอุปสงค์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากเข้าสู่ฤดูหนาวของยุโรป และการผ่อนคลายมาตรการ COVID ของจีน ในส่วนของอุปทานคาดว่ายังคงตึงตัวจากปริมาณน้ำมันดิบในคลังที่อยู่ในระดับต่ำ แต่การดำเนินงานอาจถูกกดดันจากค่าขนส่งที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น
แนวโน้มผลการดำเนินงานปี 66 ยังคงสดใส คาดการณ์กำไร 6,430 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐาน GRM ปี 66 อยู่ที่ 6.9 $/bbl เนื่องจากคาดว่าอุปทานยังคงตึงตัว และยังหนุนราคาน้ำมันจาก 1) คาดกำลังการผลิตของ OPEC สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด เนื่องจากกำลังการผลิตสำรองที่อยู่ในระดับต่ำ 2) การยกเลิกการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียของยุโรป คาดว่าจะส่งผลให้อุปทานหายไปราว 1 mbd 3) ปริมาณน้ำมันดิบในคลังของหลายๆ ประเทศอยู่ในระดับต่ำ และอุปสงค์ที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการผ่อนคลายมาตรการ COVID ของจีน
ทั้งนี้ บล.หยวนต้า มองว่า กระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ยังใช้เวลาอีก 1.5 ปี ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 66 มองว่ามีกำไรสุทธิ 4.5 พันล้านบาท (ลดลง 60% YoY) แนะนำ “ขาย” ให้ราคาเหมาะสม 10.80 บาท
การซื้อขายหุ้น SPRC เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ 11.60-11.90 บาท ก่อนปิดที่ 11.70 บาท เพิ่มจากวันก่อน 0.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 194 ล้านบาท
#SPRC #Caltex #Chevron