HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 แห่งปรับตัวลง หลังดัชนี PPI สูงกว่าคาด วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย ส่วนตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 9 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 33,476.46 จุด ลดลง 305.02 จุด หรือ 0.90% จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะยังคงขึ้นดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต(PPI) สูงกว่าคาดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,934.38 จุด ลดลง 29.13 จุด, -0.73%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,004.62 จุด ลดลง 77.39 จุด,อ -0.70%
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 2.8%, ดัชนี S&P500 ลดลง 3.4% และดัชนี Nasdaq ลดลง 4%
กระทรวงแรงงานรายงานดัชนี PPI ทั่วไป ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่า 0.2% ที่นักวิเคราะห์คาด การณ์ที่ระดับ และเพิ่มขึ้น 7.4% จากระยะเดียวกันของปีก่อน สูงกว่า 7.2% ที่นักวิเคราะห์คาด
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่า 0.2%ที่นักวิเคราะห์คาด และเพิ่มขึ้น 6.2% จากระยะเดียวกันของปีก่อน สูงกว่า 5.9% ที่นัก วิเคราะห์คาด
ผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนธันวาคมของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นมาที่ 59.1 จาก 56.8 ในเดือนพฤศจิกายนและสูงกว่า 56.9 ที่นักวิเคราะห์คาด ช่วยคลายความวิตกได้บ้าง แต่นักลงทุนยังจับตาการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภคที่จะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวหรือไม่
สเตฟานี แลง จาก Homrich Berg กล่าวว่า นักลงทุนหวังว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ข้อมูลเศรษฐกิจกลับไม่เป็นตามที่คาดหวัง โดยนักลงทุนคาดว่าจะเห็นเงินเฟ้อลงมาที่ระดับใกล้กับดอกเบี้ย fed funds rate เพื่อที่เฟดจะได้ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังมีข้อมูลอีกหลายชุดกว่าจะถึงจุดนั้น ดังนั้นยังมีงานที่เฟดต้องทำอีกมากเรื่องเงินเฟ้อ
นักเศรษฐศาสตร์หลายรายมองว่า แม้ดัชนี PPI สูงกว่าคาด แต่ก็ไม่ได้ทำให้การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมสัปดาห์หน้าเปลี่ยนไป เพราะการเพิ่มแบบเดือนต่อเดือนของดัชนีPPI ทั่วไปลดลงมากจากปีที่แล้ว และลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และไม่มีนัยะต่อการตัดสินใจของเฟดในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50%
หุ้นลูลูเลมอน แอธเลติกา บริษัทผลิตเครื่องแต่งกายกีฬาของแคนาดา ลดลงราว 13% หลังคาดการณ์ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ต่ำกว่าคาด
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก นำโดยกลุ่มก่อสร้างและวัสดุที่เพิ่มขึ้น 1.8% นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวหลังหลังผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด แต่ยังประเมินแนวโน้มที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมทั้งจับตาการประชุมของธนาคารกลางประเทศหลักทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์หน้า
รัฐบาลอังกฤษประกาศการปฏิรูปขนานใหญ่ด้านการกำกับดูแลภาคการเงินและจะยกเครื่องกฎหมายอียูที่เป็นอุปสรรคการเติบโต โดยออก 30 มาตรการ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบที่กำหนดให้ธนาคารแยกธุรกิจรายย่อยออกจากธุรกิจวาณิชธนกิจที่นำมาใช้หลังวิกฤติการเงินปี 2008
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 439.13 จุด เพิ่มขึ้น 3.66 จุด, +0.84%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,476.63 จุด เพิ่มขึ้น 4.46 จุด, +0.06%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,671.74 จุด เพิ่มขึ้น 24.43 จุด, +0.37%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,360.86 จุด เพิ่มขึ้น 96.30 จุด, +0.68%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 71.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 76.10ปิดที่ 76.15ดอลลาร์ต่อบาร์เรล