HoonSmart.com>>ดาวโจนส์ปิดบวกแค่ 1.58 จุด ขณะที่ดัชนี S&P และ Nasdaq ยังคงปรับตัวลง จากความวิตกเศรษฐกิจถดถอย-เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยยาวนานกว่าที่คาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average : DJIA) วันที่ 7 ธ.ค. 2565 ปิดที่ 33,597.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด หรือ 0.005% จากความวิตกว่าเศรษฐกิจจะถดถอยและวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)รอบนี้จะยาวนานกว่าที่คาด.
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,933.92 จุด ลดลง 7.34 จุด , -0.19%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,958.55 จุด ลดลง 56.34 จุด, -0.51%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.402%
การซื้อขายผันผวนโดยดัชนี S&P ปรับตัวขึ้นไปสูงถึง 0.41% และบางช่วงอ่อนตัวไปที่ระดับต่ำสุด 0.47%
Susannah Streeter ของ Hargreaves Lansdown กล่าวว่า มีความกังวลมากขึ้นว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากในอนาคต เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและการขึ้นดอกเบี้ย โดยชี้ไปที่ คำเตือนภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากบรรดาผู้บริหารธนาคารสหรัฐฯ และข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน แม้มีการผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ แต่เห็นได้ชัดว่าสถานการณ์โควิดของจีนยังไม่จบ
รายงานที่ว่าทางการจีนจะผ่อนคลายมาตรการโควิดดูเหมือนไม่มากพอที่จะกลบความวิตกนักลงทุนหลังการส่งออกและการนำเข้าของจีนเดือนพฤศจิกายนลดลง โดยการส่งออกของจีนหดตัว 8.7% จากระยะเดียวกันของปีก่อนส่วนการนำเข้าลดลง 10.6%
หุ้นแอปเปิลลดลง 1.4% หลัง Murata Manufacturing คาดว่าแอปเปิลจะลดการผลิตไอโฟน 14 เพราะความต้องการลดลง และนักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนเล่ย์ ปรับลดคาดการณ์การส่งมอบไอโฟนลง 3 ล้านเครื่องในช่วงไตรมาส 4
นักลงทุนรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอีกรอบ ก่อนการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายในปีนี้ของเฟด ทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ อัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิต และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะมีขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ แต่ข้อมูลที่สำคัญที่สุดสำหรับสัญญานกับทิศทางดอกเบี้ยของเฟดคือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ออกในวันอังคาร ในวันเดียวกันกับการประชุมสุดท้ายของปี 2565 เริ่มขึ้น
ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แม้จะน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา แต่ก็วิตกว่าเฟดจะทำให้เศรษฐกิจ soft landing ได้หรือไม่
หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ลดลงต่อเนื่อง โดย หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.22% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ลดลง 0.6%
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลง 2% ด้วยความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) หลังผู้บริหารธนาคารใหญ่ของสหรัฐออกมาเตือนเกี่ยวกับแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า
ราคาบ้านในอังกฤษเดือนพฤศจิกายนลดลงมากสุดในรอบ 14 ปีนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008 จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ตลาดจับตากการประชุมของเฟด และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า
หุ้นแอร์บัส ลดลง 2.2% หลังยกเลิกคาดการณ์การส่งมอบเครื่องบิน และวันที่ในการบรรลุเป้าหมายการผลิตหลัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่436.20 จุด ลดลง 2.72 จุด, -0.62%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,489.19 จุด ลดลง 32.20 จุด,-0.43%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่6,660.59 จุด ลดลง 27.20 จุด, -0.41%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่14,261.19 จุด ลดลง 82.00 จุด, -0.57%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.24 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 72.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 2.18 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 77.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล