HoonSmart.com>>”บางจาก คอร์ปอเรชั่น”(BCP)รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/65 2,470.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาส 3/64 ที่มีกำไรสุทธิ 1,820.09 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจโรงกลั่น และการค้าน้ำมัน ปรับเพิ่มขึ้น 118% YoY แม้ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปรับลดลง ส่งผลให้มี Inventory Loss 1,996 ล้านบาท แต่ถูกบรรเทาด้วยการรับรู้ผลกำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ล่วงหน้า 1,687 ล้านบาท จากการที่ Crack Spread มีแนวโน้มปรับลดลง
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) รายงานผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุด 30 ก.ย.65 บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 2,470.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาส 3/64 ที่มีกำไรสุทธิ 1,820.09 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.73 บาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/64 ที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้น 1.25 บาท
โดยรายได้จากการขายและการให้บริการ 74,767 ล้านบาท (-11% QoQ, +57% YoY) และมี EBITDA 11,487 ล้านบาท (-9% QoQ) ปรับลดลงจากไตรมาสก่อน โดยหลักมาจากผลกระทบของราคาน้ำมันดิบและราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดโลกปรับลดลง ส่งผลให้ไตรมาสนี้กลุ่มบริษัทบางจากมี Inventory Loss 2,698 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจโรงกลั่น และการค้าน้ำมันมี Operating GRM ปรับลดลงตาม Crack Spread อีกทั้ง Crude Premium ปรับเพิ่มขึ้น กลุ่มธุรกิจตลำด แม้ว่าจะมีค่าการตลาดปรับเพิ่มขึ้น แต่ได้รับผลกระทบจาก Inventory Loss ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานปรับลดลง ในขณะที่ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติฯ ช่วยลดผลกระทบดังกล่าวข้างต้น โดยในไตรมาสนี้ OKEA มีรายได้จาการขายน้ำมันดิบและก๊าซสูงสุด เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากราคาขายก๊าซธรรมชาติ(Gas Price) ที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 136% QoQ ส่งผลให้ไตรมาสนี้มีกำไรสำหรับงวดส่วนของบริษัทใหญ่ 2,470 ล้านบาท (-53% QoQ) คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.73 บาท
ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่น และการค้าน้ำมัน ผลการดำเนินงานปรับลดลง 37% QoQ แต่ปรับเพิ่มขึ้น 118% YoY โดยในไตรมาสนี้ได้รับปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ที่ปรับลดลง ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นมี Inventory Loss 1,996 ล้านบาท แต่ผลการดำเนินงานถูกบรรเทาด้วยการรับรู้ผลกำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ล่วงหน้า 1,687 ล้านบาท จากการที่ Crack Spread มีแนวโน้มปรับลดลง ในขณะที่ไตรมาส 2/65 และไตรมาส 3/64 มี Inventory Gain และมีผลขาดทุนจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงาน QoQ ยังคงปรับลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจาก Operating GRM ปรับลดลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 11.20 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ทั้งนี้โรงกลั่นบางจากฯ ยังคงอัตรากำลังการผลิตเฉลี่ยที่สูงในระดับ 123.2 พันบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 103% ของกำลังการผลิตรวมของโรงกลั่น สำหรับผลการดำเนินงาน YoY ยังปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่าไตรมาสนี้จะมี Inventory Loss แต่ด้วย Operating GRM ที่ปรับสูงขึ้น ตาม Crack Spread ของทุกผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/64 โดยเฉพาะส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล-ดูไบ (GO-DB) เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีสาระสำคัญ ซึ่งดีเซลเป็นผลิตภัณฑ์ที่โรงกลั่นบางจากฯ ผลิตได้มากที่สุด อีกทั้งไตรมาสนี้รับรู้ผลกำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ล่วงหน้า
นอกจากนี้ BSGF เตรียมจัดตั้งหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ในโรงกลั่น
น้ำมันบางจากด้วยกำลังการผลิตเริ่มต้น 1.0 ล้านลิตรต่อวัน คาดว่าจะพร้อมให้บริการอุตสาหกรรมการบินทั้งในและต่างประเทศ
ในช่วงไตรมาส 4/67 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามเป้าหมาย Net Zero GHG Emissions ในปี พ.ศ. 2593 ของกลุ่มบางจากฯ