HoonSmart.com>>”เดอะคลีนิกค์ฯ”หุ้นเมกะเทรนด์ ไฮบริดความงาม-สุขภาพ ชูจุดแข็งทีมแพทย์-เครื่องมือทันสมัย-ลูกค้ากว่า 2 แสนรายใช้บริการต่อเนื่อง เพิ่มรายได้ประจำ – กำไรจ่อนิวไฮ -เปิดสาขาใหม่ 6-10 สาขา/ปี รุกหัวเมืองรอง โชว์ครึ่งปีนี้กำไรแตะ 100 ล้านบาท โต 67% ผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายรวมถึง EKH ไซเร้นด์พีเรียด 100% ที่ปรึกษานัดเคาะราคาขายหุ้นให้ส่วนลด เจาะสถาบัน VI ลงทุนยาว เตรียมลงสนามเทรดตลาด mai ไตรมาส 4
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) ในฐานะปรึกษาทางการเงิน บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) เปิดเผยว่า ทีมผู้บริหาร KLINIQ และที่ปรึกษาทางการเงินได้ร่วมกันนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้กับนักลงทุนได้เข้าใจถึงภาพรวมธุรกิจ และแผนการดำเนินงานในอนาคต รวมทั้งให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตภายหลังจากการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนภายในไตรมาส 4/2565 ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ
KLINIQ มีแผนจะระดมทุนเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 60 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น ให้แก่ประชาชน สัดส่วน 27.27% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คาดว่าจะสรุปราคาขายในสัปดาห์หน้า และจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน VI เพื่อลงทุนระยะยาวตามการเติบโตของธุรกิจ
“การโรดโชว์ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านการแพทย์ความงามครบวงจร อีกทั้งธุรกิจด้านสุขภาพและความงามเป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ ที่มีโอกาสเติบโตสูง รวมถึงประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการแพทย์และความงาม ทำให้เห็นโอกาสการเติบโตของ KLINIQ อย่างชัดเจน ยิ่งมั่นใจมากในช่วงยากลำบาก โควิดแพร่ระบาดหนัก ผู้บริหารยังสามารถสร้างการเติบโตได้ และขยายสาขาเพิ่ม โดยใช้เงินทุนของบริษัท ไม้ได้เพิ่มภาระหนี้”นายรัฐชัยกล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 714.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.26% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 451.59 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 100.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.03% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 60.00 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิของปี 2564 ทั้งปีอยู่ที่ 129.25 ล้านบาท
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างโดดเด่น จากครึ่งปีแรกมีกำไร 100.22 ล้านบาท เทียบกับปีที่ผ่านมาทำได้ 129.25 ล้านบาท คาดครึ่งปีหลังจะเติบโตต่อเนื่อง จากการขยายสาขา และการคลายล็อคดาวน์ ทำให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศใช้บริการมากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทฯมีรายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาทครั้งแรกในปี 2563 ก่อนที่จะเจอสถานการณ์โควิดต้องปิดบริการบางส่วน
จุดเด่นของ KLINIQ เปรียบเสมือนบ้านมี 3 เสาหลัก บุคคลากร เครื่องมือและแบรนด์ดิ้ง ทำให้มีกลุ่มลูกค้ามาใช้บริการมากกว่า 2 แสนราย และมีการเข้ามาใช้การซ้ำ เป็นส่วนสำคัญที่ให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากคุณภาพทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีการอบรมอย่างต่อเนื่อง มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับมาตรฐานสหรัฐอเมริกา (US FDA) เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงยาที่ใช้ในการรักษา และจำนวนสาขาที่กระจายทั่วประเทศ กว่า 39 แห่ง และยังคงขยายตัวออกไปตามหัวเมืองรอง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯเตรียมนำไปใช้สำหรับการลงทุนเปิดสาขาใหม่ 6-10 สาขา/ปี ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ และซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์เพิ่มเติม ขยายศูนย์ศัลยกรรม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงนำไปใช้ลงทุนและพัฒนาระบบบัญชีให้เชื่อมโยงกับระบบการขายหน้าร้าน เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถบันทึกธุรกรรมแบบทันที (Real-Time)
“การเปิดสาขาของบริษัทใช้เวลา 2 ปี มีรายได้คุ้มทุน ขณะที่บริษัทมีหนี้ต่ำ ธุรกิจที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางและระดับบน มีกำลังสูง ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรและการมาซื้อซ้ำ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 58% และอัตรากำไรสุทธิ 12-15% อนาคตดีขึ้น จากการขยายสาขาทำให้เกิดการประหยัดจากขนาด หรือEconomies of scale เนื่องจากการขยายสาขาทุกปี”นายแพทย์อภิรุจ
ส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม รวมถึงพันธมิตร คือบริษัท เอกชัยการแพทย์ (EKH) เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงในการเปิดศูนย์ศัยกรรม มาตรฐานโรงพยาบาล ยอมที่จะถือลงทุนระยะยาว ไซเรนพรีเรียด 100%