“โลตัส” เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 รุ่น อายุ 3-7 ปี จ่าย 3.25-4.00% ต่อปี

HoonSmart.com>> “โลตัส” (Lotus’s) ผู้นำค้าปลีก New SMART Retail เคาะอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3 รุ่น จากทั้งหมด 4 รุ่น อายุ 3 ปี 5 ปี 7 ปี ชูอัตราดอกเบี้ย 3.25-4.00% ต่อปี พร้อมเสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่-ผู้ลงทุนสถาบัน 17-19 ต.ค.65 ปลื้มกระแสตอบรับคึกคัก ชูจุดเด่นครั้งแรกของการลงทุนในหุ้นกู้ธุรกิจค้าปลีกแบบ Omni-Channel

นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) มีความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ โดยล่าสุดได้ประกาศอัตราดอกเบี้ยสำหรับหุ้นกู้จำนวน 3 รุ่นจากทั้งหมด 4 รุ่น ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ในระหว่างวันที่ 17-19 ต.ค.2565

หุ้นกู้รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.55% ต่อปี และรุ่นอายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี ส่วนรุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน จะประกาศอัตราดอกเบี้ยให้ทราบในภายหลัง สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่สามารถจองซื้อผ่านผู้จัดการการจำหน่ายหุ้นกู้ ทั้งสิ้น 8 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ,ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารยูโอบีและบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร

“เป็นที่น่ายินดีที่ หุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ที่สอบถามผ่านมายังผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความสนใจดังกล่าวสะท้อนปรากฏการณ์ที่สำคัญในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพราะถือเป็น “ครั้งแรก” กับการลงทุนในหุ้นกู้ของธุรกิจค้าปลีกแบบ Omni-channel ที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) และถือเป็น “ครั้งแรก” ของการออกหุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งด้วยอายุของหุ้นกู้แต่ละรุ่นที่มีความหลากหลาย ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และอันดับความน่าเชื่อถือหุ้นกู้จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A+” เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” ซึ่งจัดอันดับ ณ วันที่ 19 ส.ค.2565 ทำให้หุ้นกู้ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ลงทุนรายใหญ่ได้เป็นอย่างดี” ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าว

ปัจจุบัน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแบบ omni-channel ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย.2565 “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีก จำนวน 2,597 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 224 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 2,171 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าทั้ง 2,597 แห่งทั่วประเทศในการเป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) อาทิ Grab, Shopee และ Lazada เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค ตลอดจนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของ “โลตัส” (Lotus’s) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 201 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 784,612 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก โดยในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 69 แห่ง

ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 89% และบริษัทฯ ถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,000 ตารางเมตร ทั้งนี้ ผลประกอบล่าสุดครึ่งปีแรกของปี 2565 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2565)