ก.ล.ต.ฟ้องแพ่ง ปรับ’บิทคับฯ-ผู้ดูแลสตางค์ฯ’ รวมกว่า 36 ล้านบ.ปั่นวอลุ่มเกินจริง

HoonSmart.com>> ก.ล.ต.สั่งดำเนินคดีทางแพ่ง บริษัทบิทคับ ออนไลน์, นายอนุรักษ์ เชื้อชัย, นายสกลกรย์ สระกวี กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub  ปรับ 24,161,292 บาท รวมทั้งปรับบริษัท LLC Fair Expo, Mr. Mikalai Zahorski 12,080,646 บาท ฐานสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro สั่งห้ามซื้อขาย-ห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1. บริษัท บิทคับ ออนไลน์ 2.นายอนุรักษ์ เชื้อชัย และ3.นายสกลกรย์ สระกวี กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Bitkub   ของบริษัทบิทคับ โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 24,161,292 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

ตามที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ 1.บริษัทบิทคับ 2. นายอนุรักษ์ และ 3.นายสกลกรย์ โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด รวม 24,161,292 บาท ห้ามนายอนุรักษ์และนายสกลกรย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นระยะเวลา 6 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามข่าว ก.ล.ต.ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นั้น

แต่เนื่องจากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด จึงพิจารณาได้ว่า ผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 24,161,292 บาท กำหนดห้ามนายอนุรักษ์และนายสกลกรย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้นายสกลกรย์ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัทบิทคับอย่างลูกหนี้ร่วม

นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังเปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดอีก 2 ราย ได้แก่ 1. บริษัท LLC Fair Expo 2.Mr. Mikalai Zahorski ทำหน้าที่ดูแลสภาพคล่อง ในศูนย์ซื้อขาย Satang Pro กรณีสร้างปริมาณเทียมสินทรัพย์ดิจิทัลในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล Satang Pro ของบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น  โดยการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ชำระเงินรวม 12,080,646 บาท รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลและกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

โดยให้ผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด คิดเป็นเงินรวม 12,080,646 บาท ห้ามบริษัท LLC Fair Expo และ Mr. Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นระยะเวลา 6 เดือน และห้าม Mr. Mikalai เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้เสนอขายโทเคนดิจิทัลหรือผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นระยะเวลา 12 เดือน ตามข่าว ก.ล.ต.  ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 นั้น

ผู้กระทำความผิดดังกล่าวไม่ยินยอมที่จะระงับคดีในชั้น ก.ล.ต. ดังนั้น ก.ล.ต. จึงมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีผู้กระทำความผิดต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ให้ผู้กระทำความผิดชำระเงินรวมทั้งสิ้น 12,080,646 บาท กำหนดห้าม Mr. Mikalai ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร ในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ โดยให้ Mr. Mikalai ร่วมรับผิดในมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบริษัท LLC Fair Expo อย่างลูกหนี้ร่วม