HoonSmart.com>> “แอสเซทไวส์” เปิดตัว ‘WISE WEALTH BY ASSETWISE’ รับเทรนด์ลงทุนอสังหาริมทรัพย์ขาขึ้น ชูรูปแบบการลงทุนใหม่ในอสังหาริมทรัพย์ ประกันผลตอบแทน 5% นาน 5 ปี เจาะตลาดนักลงทุน พร้อมปักหมุด 8 โครงการสำหรับนักลงทุนบนทำเลศักยภาพใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT และ BTS รับดีมานด์ผู้เช่ากลุ่มคนทำงานและนักศึกษา
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า ภาพรวมในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีแรกที่มีการขยับตัวในทิศทางบวกและมีแนวโน้มการฟื้นตัวในขาขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการปล่อยเช่าแก่กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่และนักศึกษา มีการขยายตัวต่อเนื่อง สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่าที่เพิ่มขึ้น สามารถสร้างอัตราทำกำไรที่ดีและน่าพึงพอใจในการปล่อยเช่าระยะยาว โดยเฉพาะโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพ เช่น ใกล้สถานศึกษา ใกล้แหล่งงาน ใกล้แนวรถไฟฟ้า แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก จะได้รับความสนใจและมีโอกาสปรับขึ้นค่าเช่าในทิศทางที่สูงขึ้น
จากเทรนด์ของการลงทุนที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก อีกทั้งมีช่องทางการลงทุนที่หลากหลายรูปแบบ เช่น หุ้น ทองคำ และสินทรัพย์ดิจิทัล ล่าสุด ASW เปิดโอกาสใหม่ของการลงทุนกับ ‘Wise Wealth Program’ เครื่องมือสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการซื้อสินทรัพย์ในรูปแบบคอนโดฯ เพื่อปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่การันตีอัตราผลตอบแทน (Guarantee Yield) 5% ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยมี ASSET A PLUS by ASSETWISE ที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการและจัดหาผู้เช่าให้ทั้งหมด ตอบโจทย์และช่วยลดภาระขั้นตอนการหาผู้เช่าสำหรับนักลงทุน พร้อมทั้งบริการผู้เช่าตลอดสัญญาการลงทุน ที่สำคัญช่วยลดความเสี่ยงจากการขาดผู้เช่าระหว่างสัญญา
ทั้งนี้ จุดเด่นของ Wise Wealth Program เป็นโปรแกรมการลงทุนที่การันตีการจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนอสังหาฯ ตั้งแต่ปีแรกและต่อเนื่องตลอดครบสัญญา 5 ปี พร้อมทั้งการบริหารสินทรัพย์ของผู้ลงทุนให้สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง ที่สำคัญมีทีมงานบริหารจัดการอย่างมืออาชีพจาก ASSET A PLUS by ASSETWISE เริ่มตั้งแต่การหาผู้เช่าที่ช่วยลดขั้นตอนการดำเนินงานให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เสริมด้วยบริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยแบบครบวงจรอาทิ เช่น บริการตกแต่งภายใน บริการแม่บ้านทำความสะอาด บริการขนย้าย บริการซ่อมและล้างแอร์ เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการฝากขายและปล่อยเช่า
สำหรับโครงการอสังหาฯ พร้อมอยู่เพื่อการลงทุนปล่อยเช่า มีทั้งหมด 8 โครงการ ได้แก่ 1) โครงการ เคฟ ศาลายา (Kave Salaya) คอนโดฯ ใกล้มหาวิทยาลัยมหิดล เริ่มต้นที่ 1.96 ล้านบาท 2) โครงการแอทโมซ รัชดา – ห้วยขวาง (Atmoz Ratchada – Huaikhwang คอนโดฯ สไตล์รีสอร์ท เดินทางสะดวก เริ่มต้นที่ 2.34 ล้านบาท 3) โครงการโมดิซ สุขุมวิท 50 (MODIZ Sukhumvit 50) คอนโดวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา ราคาเริ่มต้น 2.39 ล้านบาท 4) โครงการ แม็กซี่ ไพร์ม รัชดา – สุทธิสาร (Maxxi Prime Ratchada-Sutthisan) คอนโดฯ แต่งครบพร้อมอยู่ ใจกลาง MRT สถานีสุทธิสาร เริ่มต้นที่ 2.64 ล้านบาท
5) โครงการโมดิซ อินเตอร์เชนจ์ รามอินทรา-หลักสี่ (Modiz Interchange Ramindra – Laksi) ใกล้จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสาย สีเขียวและสีชมพู ใกล้สถานนีวัดพระศรีฯ เริ่มต้นที่ 2.71 ล้านบาท 6) โครงการ บราวน์ พหลโยธิน 67 (Brown Phaholyothin 67) ห้องไซซ์ใหญ่ แต่งครบพร้อมอยู่ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายหยุด เริ่มต้นที่ 2.95 ล้านบาท 7) โครงการแอทโมซ ลาดพร้าว 71 (Atmoz Ladprao 71) มาพร้อมกับส่วนกลางขนาดใหญ่ ใจกลางทำเลลาดพร้าว เริ่มต้นที่ 3.19 ล้านบาท และ 8) โครงการไอเวอรี่ รัชดา – ลาดพร้าว (Ivory Ratchada-Ladprao) คอนโดฯ ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน ใกล้สถานี MRT ลาดพร้าว และ BTS รัชดา เริ่มต้นที่ 3.78 ล้านบาท และทั้งหมดคือโครงการพร้อมอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพเหมาะกับการลงทุนปล่อยเช่าเพื่ออยู่อาศัยของคนทำงานรุ่นใหม่และนักศึกษา
“ASW เป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่มุ่งมั่นการออกแบบที่อยู่อาศัยให้สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้โครงการของเราได้รับความสนใจจากนักลงทุน ผู้เช่าทั้งในระดับผู้บริหาร กลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ นักเรียนและนักศึกษา รวมทั้งชาวต่างชาติ ด้วยอัตราค่าเช่าที่สูงสอดคล้องกับทำเลของแต่ละโครงการ สำหรับ ‘Wise Wealth Program’ โดย ASW เราพร้อมจะขับเคลื่อนการบริหารจัดการการลงทุนอสังหาฯ อย่างมืออาชีพ เพื่อสนับสนุนนักลงทุนอสังหาฯ ปล่อยเช่าได้รับอัตราผลตอบแทนอย่างมั่นคง” นายกรมเชษฐ์ กล่าว
ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” หรือ “We Build Happiness” ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 44 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 46,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 32 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 9,218 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง