HoonSmart.com>>“ชาญชัย กุลถาวรากร” ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล (ASL) ให้สัมภาษณ์ www.HoonSmart.com ว่า ปัจจุบัน ASL ไม่ได้มีดีเพียงการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ ที่มีการเก็บค่าธรรมเนียม (คอมมิชชั่น) ต่ำแค่ 500 บาท สำหรับมูลค่าการซื้อขาย 1 ล้านบาทเท่านั้น บริษัทมีการพัฒนาระบบไอที มีบทวิจัยดีๆ และเพิ่มศักยภาพทีมงานในการให้บริการครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าได้ผลตอบแทนมากยิ่งขึ้น
บริษัทฯเริ่มเปิดดำเนินธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ เมื่อปี 2558 ในช่วงแรกมีลูกค้าที่เป็นนักลงทุนรายย่อยเท่านั้น ปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าสถาบันในประเทศส่งออเดอร์ผ่านแล้ว ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจ(IB) ได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน ที่เสนอขายให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) ของบริษัท เจริญอุตสาหกรรม (CH)
ธุรกิจมีความก้าวหน้าตามแผนที่วางไว้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจตราสารหนี้ เฉพาะที่มีเรทติ้งตั้งแต่ BBB-ขึ้นไป และในปี2565 ได้เพิ่มธุรกิจกองทุนรวมโดยการเป็นตัวแทนซื้อขายหน่วยลงทุน (selling agent) ให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่าง ๆ ซึ่งได้เซ็นสัญญากับบลจ.จำนวน 17 บริษัท และคาดว่าจะทยอยเซ็นสัญญาความร่วมมือให้ครบทั้งหมดต่อไป
ปัจจุบันบริษัทฯกำลังฟอร์มทีมงาน เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (wealth) แต่ยังไม่ได้ทำการตลาด
“ชาญชัย”เล่าให้ฟังว่า ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของ ASL ไม่เหมือนบล.ทั่วไป เราวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าธุรกิจนี้เป็นกลุ่มเดียวกันนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้น ไม่ได้เน้นลูกค้ารายใหญ่เท่านั้น ลูกค้าทุกคนจะมีโอกาสในการเชื่อมโยงการลงทุนได้มากขึ้น ปรับพอร์ตให้เท่าทันกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งปัจจัยต่างประเทศและในประเทศ วิธีการที่ลูกค้าจะเดินไปถึงเป้าหมายนั้นได้ การพัฒนาระบบอย่างเดียวไม่เพียงพอ บริษัทยังมีการลงทุนสร้างห้องสำหรับการจัดงานสัมมนาให้ความรู้ เสริมเขี้ยวเล็บให้กับลูกค้าและทีมงานโตไปด้วยกัน
“เราจะเป็นสถาบันการเงินออนไลน์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะต้องสร้างความน่าเชื่อถือ และธุรกิจต้องมีความหลากหลาย ปัจจุบันผลงานดีขึ้นแต่ยังไม่เต็มที่”
ตอนผมมาเริ่มทำบล. ASL ได้วางแผนบันไดที่จะก้าวเดินไปข้างหน้ามี 4 ขั้น ตอนนั้นไม่มีธนาคารออมสิน ซึ่งเมื่อเข้ามาร่วมถือหุ้นสัดส่วน 25% ของทุนจดทะเบียน และปัจจัยแวดล้อมของธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนแผนเพิ่มขึ้นเป็น 16 ขั้น เพราะธนาคารออมสินได้สร้างพลังมหาศาล เนื่องจากมีสาขาถึง 1,600 สาขาทั่วประเทศ มีลูกค้ากว่า 30 ล้านบัญชี และยังช่วยให้บริษัทมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น “ไม่มีคำถามเรื่องความมั่นคง” พร้อมโอกาสที่เกิดขึ้นตามมามากมาย ตอนแรกมีฐานลูกค้าหลักเป็นรายย่อย มูลค่าซื้อขายปีแรก ๆ อยู่ที่ราว 200 ล้านบาทต่อวัน จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 800 ล้านบาท หลังจากได้ธนาคารออมสินเข้ามา จนสามารถขึ้นไปสูงสุดถึง 2,000 ล้านบาทต่อวัน ปัจจุบันมีสถาบันในประเทศส่งออเดอร์เข้ามาพอสมควร คาดหวังว่าจะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านบริษัท
นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 2565 บริษัทฯได้พันธมิตรใหม่ ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) หรือ Bank of China (Thai) หรือ BOCT ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน และเป็นธนาคารระดับสากลที่มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลก มีการร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ ( MOU) เพื่อร่วมมือ 4 เรื่อง ได้แก่ 1.พัฒนาให้ผู้ลงทุนในประเทศและต่างประเทศสามารถเข้าถึงตลาดร่วมกัน 2.ร่วมมือพัฒนาระบบไอทีในการให้บริการที่จะเชื่อมโยงสองฝั่งต่อกันได้ 3.เรียนรู้และทำความรู้จักผลิตภัณฑ์ของกันและกัน และ 4.BOCT จะแนะนำบริษัทในเครือให้ ASL ต่อไป
บริษัทได้ขยายบริการซื้อขายหุ้นสำหรับคนไทยที่ต้องการลงทุนในต่างประเทศ ปัจจุบันลงทุนได้มากกว่า 20 ประเทศทั่วโลก และพัฒนาบริการซื้อขายหุ้นสำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการลงทุนในตลาดทุนไทย ไม่ว่าจะเป็นนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา
การบุกธุรกิจเพื่อให้บริการครบวงจรเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ยอมรับว่ายังขาดอีกหลายเรื่องในการต่อยอด เช่น ช่องทางการให้บริการ ขาดตัวแทนที่เป็น Wealth และขาดระบบไอทีที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าจะเดินขึ้นถึงบันไดขั้นที่ 16 อย่างที่วางเป้าหมายไว้
“ชาญชัย”กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันผมมีอายุ 66 ปี คาดว่าความฝันของผมจะต้องจบลงตอนอายุ 70 ปี ในการวางรากฐานมั่นคงและส่งไม้ต่อให้รุ่นต่อไป ซึ่งลูกชาย”วัฒนา กุลถาวรากร” ได้เข้ามาร่วมงานตั้งแต่แรก ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับพ่อ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นลูกไม้ที่หล่นใต้ต้น มาสร้างบล.เอเอสแอลให้เป็นสถาบันการเงินออนไลน์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งอย่างที่ฝันไว้
