HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด มองแนวโน้มหุ้นวันนี้ ดัชนีทรงตัวในกรอบ 1630 – 1,650 จุด แนะเก็งกำไร กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW กลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, GLOBAL, PTG กลุ่ม Anti-Oil เช่น GPSC, BGRIM, TOA หุ้นเด่นรายวันเสิร์ฟ TIPH ส่วน CK รอซื้อช่วงอ่อนตัว
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบ 1630 – 1,650 จุด ได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัว รอผลการประชุมเฟด 21 ก.ย. แนะนำซื้อกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW กลุ่มค้าปลีก CPALL, BJC, GLOBAL, PTG กลุ่ม Anti-Oil เช่น GPSC, BGRIM, TOA
หุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TIPH (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 77.50 บาท) ผลประกอบการ 2Q65 ออกมาขาดทุนสุทธิ 318 ล้านบาท แต่เกิดขึ้นจากรายการ One-Off จากการเคลม Covid ที่มีผลย้อนหลังไป 6 เดือน ขณะที่ผลการดำเนินงานปกติยังคงเติบโตจากรายได้เบี้ยประกันภัยรับสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ประเด็นลบดังกล่าวน่าจะรับรู้ไปหมดแล้ว
ขณะที่ผลประกอบการ 3Q65 จะกลับมาเติบโตเด่นจากทั้งรายได้เบี้ยประกันภัยและ Loss Ratio ที่ลดลง เนื่องจากประกัน Covid ส่วนใหญ่หมดไปในช่วง 2Q65 แล้ว รวมถึงคาดว่าจะมีโมเมนตัมบวกต่อใน 4Q65 จากปัจจัยฤดูกาลในส่วนของลูกค้าภาครัฐ โดยมีปันผลงวด 1H65 จำนวน 0.5 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 13 ก.ย.65
หุ้น CK (ซื้อเมื่ออ่อนตัว / ราคาเป้าหมาย 25.75 บาท) วานนี้ (8 ก.ย.65) ได้มีเอกสารเผยแพร่การเปิดซอง รฟฟ.สายสีส้ม (บางขุนนนท์-มีนบุรี) วันที่ 7 ก.ย. ซองที่ 3 ซึ่งกลุ่ม BEM+CK ชนะเสนอราคา NPV ต่ำสุด 7.827 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากสามารถเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ จะทำให้บริษัทมีงานระบบในมือ 3.1 หมื่นลบ, งานโยธาประมาณ 9.6 หมื่นล้าน สำหรับงานในมืออื่น เช่น รฟฟ.สีม่วงใต้ร่วมกับ STEC, อาคารเรียนรู้เฉลิมพระเกียรติฯ
ขณะที่ปัจจัยกดดันยังมีจากเงินเฟ้อ, ดอกเบี้ยขาขึ้น และค่าแรงขั้นต่ำอยู่บ้าง แต่จากงานโครงการที่เริ่มมากและเป็นงานคุณภาพดี ทำให้เราคาดปี 65 ทำรายได้ราว 1.9 หมื่นล้านบาท (+31.89%YoY) คาดกำไรปีนี้ 1.4 พันล้านบาท (+54%YoY), EPS เท่ากับ 0.85 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับบวกไปพอสมควรแนะนำให้รอจังหวะย่อซื้