โดย..สุนันท์ ศรีจันทรา
ยังถามไถ่กันอยู่ในหมู่นักลงทุนว่า เกิดอะไรขึ้นกับตลาดหุ้นในการซื้อขายภาคบ่ายวันที่ 27 ก.ย. ซึ่งดัชนีหุ้นผันผวนอย่างรุนแรง ดิ่งลงและทะยานถึงถึงสอบรอบ ภายในชั่วเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จนคนที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่หน้าจอแทบหัวใจวาย
การซื้อขายหุ้นภาคเช้าวันที่ 27 ก.ย. ยังไม่มีสัญญาณความผิดปกติเกิดขึ้น ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ปรับฐานลงเล็กน้อย แต่หลังเปิดการซื้อขายในภาคบ่ายได้ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือประมาณบ่าย 3 โมง หุ้นขนาดใหญ่เริ่มมีแรงขายเข้ามา ทำให้ราคาอ่อนตัวลง ก่อนมีแรงขายทะลักกระจายในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว ทำให้ดัชนีฯ ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว โดยลงไปต่ำสุดที่ประมาณ 1,736 จุด
แต่หลังจากนั้นมีแรงซื้อเข้ามา ทำให้ราคาหุ้นขนาดใหญ่กระเตื้องขึ้น ดัชนีดีดตัวตามขึ้นมายืนประมาณ 1,745 จุด หลังจากนั้นมีแรงขายโหมกระหน่ำเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่อีกครั้ง ฉุดดัชนีฯให้ทรุดลงต่ำสุดของวันที่ระดับ 1,735.58 จุด ลดลงจากจุดปิดวันพุธประมาณ 14 จุด แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้ดัชนีฯ ฟื้นตัวขึ้น ก่อนจะปิดซื้อขายที่ 1,752.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.02 จุด มูลค่าซื้อขาย 63,424.61 ล้านบาท
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในการซื้อขายภาคบ่าย ถูกคาดหมายว่า อาจเกิดจากสัญญาซื้อขายดัชนี 50 ล่วงหน้า โดยนักลงทุนอาจจะขายสัญญาที่จะหมดอายุในเดือนกันยายนทิ้ง และเปลี่ยนไปซื้อสัญญาที่จะหมดอายุเดือนธันวาคมนี้แทน
แต่คำถามคือ ใครเป็นคนทุบหุ้นขนาดใหญ่ เพื่อกดดัชนีหุ้น หรือ ดัชนี 50 ให้ลง
หุ้นที่ดิ่งลงและทะยานขึ้นสองตลบ ในการซื้อขายภาคบ่าย อาจจะเกิดจากสัญญาซื้อขายดัชนี 50 ล่วงหน้า ซึ่งหมดอายุลงเมื่อวันที่ 27ก.ย. โดยมีนักลงทุนบางกลุ่มจงใจกดดัชนีฯ ให้ลง เพื่อผลแห่งการได้เสียในการเล่นดัชนี 50 ล่วงหน้า
แต่นักลงทุนกลุ่มนี้เป็นใคร เป็นนักลงทุนขาใหญ่ในประเทศหรือต่างชาติ และทำไมจึงมีความสามารถกำหนดทิศทางตลาดได้ จะทุบให้ดัชนีฯ ลงก็ได้ จะลากให้ดัชนีฯ ขึ้นก็สามารถทำได้ ซึ่งทำให้ดูแล้วถึงสองรอบ ในการซื้อขายภาคบ่ายวันที่ 27ก.ย.
และเมื่อทำแล้ว อนาคตคงทำอีก สร้างความปั่นป่วน และทำให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกซ้ำรอย
ก่อนหน้านั้น มักมีการทุบขายหุ้นเวลาประมาณบ่ายโมง โดยช่วงหนึ่งเมื่อได้เวลาประมาณบ่าย 4 ดัชนีฯ มักปักหัวลง จนมีการตั้งฉายา “แก๊งบ่าย 4“ ซึ่งไม่รู้ว่ามีตัวตนหรือไม่
แต่เมื่อวานนี้ มีการทุบและกระชากหุ้นขึ้นลงหลายตลบ ในช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง ซึ่งไม่รู้ว่า เกิดจากฝีมือของนักลงทุนแก๊งใดหรือไม่
ตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น แต่ควรจะเข้าไปตรวจสอบหาเบื้องหลังความปั่นป่วนว่า เกิดจากการซื้อขายที่ปกติหรือมีนักลงทุนกลุ่มใดทำให้การซื้อขายผิดปกติ
มีใครทำให้การขึ้นลงของราคาหุ้นไม่เป็นไปตามกลไกตลาด
และมีนักลงทุนกลุ่มใด มีความสามารถชี้นำตลาด โดยกำหนดให้หุ้นขึ้นหรือลงได้หรือไม่ เพราะถ้ามีจะเป็นเรื่องที่อันตราย และทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน เพราะแสดงว่า มีกลุ่มคนที่มีอำนาจเหนือกลไกตลาดสามารถกำหนดราคาให้ขึ้นลงได้
ตลาดหลักทรัพย์ต้องลงมาตรวจสอบทันที และต้องชี้แจงข้อเท็จจริงถึงความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงครึ่งวันที่ 27ก.ย.
มีแก๊งขาใหญ่ที่คุมทิศทางตลาดหุ้นหรือไม่ ทุกคนกำลังตั้งคำถาม และตลาดหลักทรัพย์จำเป็นต้องตอบ
อ่านประกอบ