HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,631.99 จุด ลดลง 1.88 จุด เซเล็กน้อยตามตลาดภูมิภาคที่ย่อตัวลงเป็นส่วนใหญ่ จากกังวลเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย-จีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญยืดเยื้อ แต่ได้แรงหนุนจากหุ้น DELTA-MAKRO ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงาน-ธนาคารกดดัน แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งตัวในกรอบ แนวรับ 1,630-1,625 แนวต้าน 1,640 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 7 ก.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,631.99 จุด ลดลง 1.88 จุด หรือ -0.12% มูลค่าการซื้อขาย 36,590.66 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,637.16 จุด และต่ำสุด 1,629.35 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เซเล็กน้อยตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ย่อตัวลงกันเป็นส่วนใหญ่ หลังดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐออกมาดีเกินคาด จากความกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และจีนล็อกดาวน์เมืองสำคัญยืดเยื้อ
ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้น DELTA ที่ขึ้นมา 5% หนุนดัชนีได้ราว 3 จุด และหุ้น MAKRO ที่ขึ้นมา 2.9% หนุนดัชนีได้เกือบ 1 จุด ขณะที่ได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคาร หลัง Fund Flow ต่างชาติชะลอ อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะออกมาในวันที่ 13 ก.ย.นี้ เพราะมีผลต่อการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และ 8 ก.ย.ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตลาดคาดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% สำหรับปัจจัยการเมืองในเรื่องศาลนัดพิจารณากรณีปม 8 ปีของนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) ก็ให้ติดตามดูแต่คาดว่าไม่น่าจะมีผลต่อตลาด
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งตัวในกรอบ แนวรับ 1,630-1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 148.00 บาท ลดลง 2.00 บาท หรือ -1.99% มูลค่าซื้อขาย 1,427.30 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 542.00 บาท เพิ่มขึ้น 24.00 บาท หรือ +4.63% มูลค่าซื้อขาย 1,359.17 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 164.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.91% มูลค่าซื้อขาย 1,326.17 ล้านบาท
GULF ปิดที่ 56.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,231.80 ล้านบาท
MAKRO ปิดที่ 35.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +3.62% มูลค่าซื้อขาย 1,060.28 ล้านบาท