HoonSmart.com>>หุ้น-ค่าเงินบาทผันผวน กังวล ”ประยุทธ์ จันทร์โอชา”หยุดปฎิบัติหน้าที่นายกฯ ติดตามศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปี บล.เมย์แบงก์ชี้ 1เดือน ดัชนีฯแย่สุด 1,580 ดีสุด 1,680 รมว.คลังยันไม่กระทบเศรษฐกิจ ปีนี้โต 3.5% ผู้ว่าธปท.คาดทั้งปีโตเพียง 3% ผู้จัดการตลาดยันเงินไหลเข้าต่อ ผู้ลงทุนสถาบัน 161 ราย จาก 76 สถาบันทั่วโลก ร่วมฟังข้อมูล Thailand Focus หุ้นต่างประเทศมีทั้งบวกและลบ รอผลประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล
วันที่ 24 ส.ค.2565 ตลาดหุ้นภูมิภาคและยุโรป มีทั้งบวกและลบ ส่วนไทยแกว่งในกรอบ 1,624.60 -1,638.75 จุด ก่อนปิดที่ระดับ 1,631.55 จุด ลดลง 2.02 จุด หรือ -0.12% มูลค่าซื้อขาย 82,621.35 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อต่อ 1,708.74 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยขายสุทธิ 1,808.51 ล้านบาท
ด้านค่าเงินบาท นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทค่อนข้างผันผวนพอสมควร แกว่งในกรอบ 36.02-36.26 บาท/ดอลลาร์ โดยในช่วงที่ตลาดทราบข่าวที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (24 ส.ค.) อ่อนค่าไปอยู่ที่ 36.26 บาท/ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็เริ่มแข็งค่าขึ้นจนมาปิดที่ระดับ 36.03 บาท/ดอลลาร์
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยื่นคำร้องเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ระหว่างนี้ให้ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ จะทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีแทน และปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับคณะรัฐมนตรีตามเดิม โดยไม่มีผลต่อการบริหารประเทศ หรือ การดำเนินนโยบายของรัฐบาล
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นแกว่งในกรอบไม่กว้างทั้งในแดนบวก-ลบ หลังจากวานนี้ได้ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดต่างประเทศไปก่อน ปัจจัยการเมืองที่รบกวนอยู่ แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่การประชุมคณะรัฐมนตรียังเดินหน้าต่อไปได้ เพียงแต่ให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีลำดับที่ 1 ขึ้นมารักษาการแทน ซึ่งคงจะต้องรอขั้นตอน 1 เดือนจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะฟันธงปม 8 ปีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จะออกมาแบบไหน แต่ก็มองการเมืองยังไม่เกิดสูญญากาศ จึงมองเป็นกลาง จากที่การปฏิบัติงานของรัฐบาลยังทำได้ต่อ แค่เปลี่ยนผู้นำเท่านั้น
“ตลาดคงจะมอนิเตอร์การเมืองไปตลอด 1 เดือน และยังเฝ้ารอดูการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล และเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้แค่ไหน ซึ่งงาน Thailand Focus ถือว่าดูดีจากที่บริษัทออกมาให้ข้อมูล นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอยู่ก็แสดงว่าโมเมนตัมตลาดยังดี และการเมืองรอบนี้ต่างชาติอาจจะชอบก็ได้ ทั้งนี้มองกรอบดัชนีฯในช่วง 1 เดือนก่อนรู้ผลศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปีนายกรัฐมนตรี แย่สุดดัชนีฯจะอยู่ที่ 1,580 จุด และดีสุดดัชนีฯจะอยู่ที่ 1,680 จุด
“ปัจจัยการเมืองยังมองเป็นกลาง เพราะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ และช่วงสั้นมองยังไม่น่าจะเห็นการประกาศยุบสภา เพราะยังไม่มีเหตุผลที่จะรีบยุบสภา คงต้องรอดูปลายปีอาจมีความเหมาะสมกว่า”
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบ ขณะที่ตลาดในกลุ่ม TIP จะบวกกัน ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบแต่ก็มีความพยายามที่จะดึงกลับขึ้นมา ซึ่งต่างแกว่งรอดูการประชุมประจำปีที่แจ็คสันโฮล โดยถ้อยแถลงประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีในคืนวันที่ 26 ส.ค. เป็นปัจจัยสำคัญก่อนการประชุมเฟดในเดือนก.ย. ซึ่งรอดูประธานเฟดจะส่งสัญญาณอะไรออกมา
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 25 ส.ค.2565 ตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้เล็กน้อย โดยมีแนวรับ 1,625 จุด แนวต้าน 1,640-1,650 จุด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังกล่าวถึงกรณีการครบวาระ 8 ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ไม่กังวลว่าจะมีกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ มีข้อผูกพันอยู่แล้ว ดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ ดังนั้นการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป เชื่อว่าจะยังมีเสถียรภาพ พร้อมมั่นใจว่าในปีนี้จะฟื้นตัวกลับมาอย่างแน่นอน คาดจะขยายตัวได้ 3-3.5% ได้รับแรงสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดว่าจะอยู่ที่ 8-10 ล้านคน เร่งการส่งออกให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 10% จากเป้าหมาย 7% และการเก็บภาษีในปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
ด้านนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ขยายตัว 2.5% ต่ำกว่าที่ ธปท.คาดการณ์ ทำให้รวมทั้งปี 2565 อาจจะขยายตัวได้ราว 3% และปี 2566 จะขยายตัวเพิ่มมาที่ 4% ซึ่ง ธปท.จะมีการคาดการณ์ตัวเลขใหม่อีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้จากเดิมประมาณการไว้ที่ขยายตัว 3.3%
“ต้องติดตามสถานการณ์อีกครั้งว่าจะอยู่ที่เท่าไร ยังมีหลายปัจจัย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวชัดเจน 7 เดือนแรกต่างชาติเข้าไทย 3.2 ล้านคน คาดทั้งปีนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านคน และยังมีการใช้จ่ายในประเทศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น” ผู้ว่าฯ ธปท.กล่าว
ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต่อไป จะเข้าสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่การส่งผ่านนโยบายไปยังธนาคารพาณิชย์เป็นสิ่งที่อยากเห็น แต่ด้วยบริบทเศรษฐกิจไทยที่พึ่งฟื้นตัว และยังมีความเปราะบางในบางกลุ่มโดยเฉพาะเอสเอ็มอีมีรายได้ต่ำ อยากเห็นธนาคารพาณิชย์ปรับดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นกัน
ส่วนความผันผวนของค่าเงินบาทนั้น มาจากความผันผวนของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือต้องไม่ทำให้เงินบาทผันผวนสูงและรวดเร็ว เพื่อให้เอกชนสามารถปรับตัวรับมือได้
” ช่วงนี้มีเงินไหลเข้ามา แต่ยืนยันว่ายังไม่เห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติในด้านเงินไหลเข้า-ไหลออก นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีเงินทุนไหลเข้าตลาดพันธบัตรระยะสั้น 4,800 ล้านดอลลาร์ ” นายเศรษฐพุฒิ กล่าว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงข่าวศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่กระทบกับดัชนีหุ้นเชื่อว่านักลงทุนมองปัจจัยพื้นฐานมากกว่าการเมือง โดยการเมืองจะส่งผลต่อตลาดหุ้นต่อเมื่อเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินการคลัง
นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ อยู่ระหว่างจัดงาน Thailand Focus 2022 มีผู้ลงทุนสถาบันจำนวน 161 ราย จาก 76 สถาบันทั่วโลก ร่วมฟังข้อมูล พบว่ามีนักลงทุนต่างชาติ จากโซนยุโรป ซึ่งเข้าร่วมงานประจำ และยังมีนักลงทุนรายใหม่จากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดหุ้น และประเด็นในการพูดคุยจะสอบถามเรื่องภาพรวมธุรกิจและการลงทุนมากกว่า โดยไม่ได้กังวลปัญหาการเมืองในประเทศไทย
นอกจากนี้ ภาคเอกชนไทยนับกว่ามีความแข็งแกร่ง เงินทุนต่างชาติ ยังคงไหลเข้าลงทุนต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.8 แสนล้านบาท และในเดือนส.ค. นี้มียอดซื้อสุทธิราว 3.5 หมื่นล้านบาท